เรือไร้ ‘สโตนส์,แบร์นาร์โด้’ ชนนิว, ‘โรเมโร่’ พร้อมช่วยไก่ดวลผี…ปรีวิว พรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2566
ฟูแล่ม – เบรนท์ฟอร์ด (21:00 น.)
ฟูแล่ม ลุ้นข่าวดีอาจจะได้ เจา ปัลญินญ่า กลับมาลงสนามอีกครั้งหลังพลาดเกมนัดเปิดซีซั่นไปเพราะอาการเจ็บ
อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ที่เป็นเป้าหมายของสโมสร อัล ฮิลาล นั้นก็พบปัญหาเจ็บข้อเท้าและจะไม่มีชื่อในเกมนัดนี้
เบรนท์ฟอร์ด ต้องรอประเมิน เบน มี ที่พลาดเกมก่อนไปเนื่องจากปัญหาเจ็บน่อง แต่ มาธิอัส เยนเซ่น จะเป็นตัวจริงได้แม้โดนเปลี่ยนตัวออกจากเกมก่อนเพราะเจ็บต้นขา
แฟรงค์ ออนเยก้า ก็ฟื้นตัวจากอาการเจ็บแฮมสตริงกลับมาฟิตอีกครั้งและอาจจะได้ลงสนามเป็นนัดแรกของฤดูกาล
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1
ลิเวอร์พูล – บอร์นมัธ (21:00 น.)
ลิเวอร์พูล ได้เห็น ธิอาโก้ อัลคันทาร่า กับ สเตฟาน บายเซติช กลับมาลงซ้อมแล้วแต่ยังไม่น่าจะพร้อมสำหรับการคืนสนาม
เกมนี้ยังไวไปสำหรับ วาตารุ เอนโดะ เพราะยังต้องรอเวิร์คเพอร์มิตหลังย้ายมาจาก สตุ๊ตการ์ท ในวันศุกร์
บอร์นมัธ อาจจะได้ ลอยด์ เคลลี่ กลับมาพร้อมลงสนามอีกครั้งนับตั้งแต่พบอาการเจ็บตอนปรีซีซั่น นอกนั้น อเล็กซ์ สก็อตต์, อดัม สมิธ, ลูวิส คุ๊ก, มาร์คัส เทเวอร์เนียร์, ไรอัน เฟรเดริคส์ และ ดานโก้ อ๊วตตาร่า ยังไม่พร้อม
อย่างไรก็ตาม มาร์กอส เซเนซี่ และ แม็กซ์ อารอนส์ ฟิตพร้อมแม้โดนเปลี่ยนตัวออกในเกมก่อนเพราะเกิดตะคริว
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– บอร์นมัธ หาชัยชนะไม่เจอเลยตลอดทั้ง 6 เกมที่เดินทางมาเยือน ลิเวอร์พูล ในลีก (เสมอ 1 แพ้ 5) แถมยังโดนยิงยับเยิน 9-0 ไปเมื่อปีที่แล้ว
– ลิเวอร์พูล ยังห่างหายจากการแพ้เกมเหย้านัดแรกของฤดูกาลมานับตั้งแต่ที่พ่ายให้ เชลซี ในปี 2003
เบน ฟรีคิกฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1
วูลฟ์ส – ไบรท์ตัน (21:00 น.)
แกรี่ โอนีล กุนซือของ วูลฟ์ส ยังไม่มีปัญหาอาการเจ็บให้กังวลและอาจใช้นักเตะชุดเดิมลงสนามอีกครั้ง
ฮวัง ฮี ชาน พอมีหวังที่จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงแทน ปาโบล ซาราเบีย หลังเกมที่แล้วเป็นเพียงแค่สำรอง
ทางด้าน ไบรท์ตัน ก็ไม่น่าเปลี่ยนแปลงไลน์อัพจากที่มีผลงานดีในเกมนัดแรกของฤดูกาล แต่นักเตะอย่าง โยเอล เฟลท์มัน รวมถึง อีแวน เฟอร์กูสัน อาจได้รับโอกาสและ อดัม เว็บสเตอร์ ก็อาจมีชื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมหลังพบปัญหาเล็กน้อย
อดัม ลัลลาน่า ก็กำลังฟื้นตัวจากปัญหาเจ็บต้นขาอยู่และ ทาริก แลมป์ตีย์ ก็ยังต้องใช้เวลาเรียกความฟิตสำหรับการลงสนามต่อไป
เบน ฟรีคิกฟันธง : ไบรท์ตัน ชนะ 1-0
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (23:30 น.)
ทางด้าน สเปอร์ส มีข่าวดีตรงที่ คริสเตียน โรเมโร่ พร้อมสำหรับการคืนสนามหลังเกมก่อนพบอาการเจ็บที่ศีรษะ
อย่างไรก็ตาม โรดริโก้ เบนทานคูร์, เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์, ไบรอัน กิล และ ไรอัน เซสเซยง ยังต้องพักกันต่อไป
แมนฯ ยูไนเต็ด คาดหมายว่าจะมี ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงสนามได้ถึงแม้โดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งของเกมชนะ วูลฟ์ส
พวกเขายังคงไร้ ทอม ฮีตัน, ราสมุส ฮอยลุนด์, ไทเรลล์ มาลาเซีย, ค็อบบี้ ไมนู และ อาหมัด ดิยาลโล่ ตามเดิม
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– หนเดียวที่ สเปอร์ส เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จากการเจอกัน 9 เกมหลังสุดในลีกคือนัดถล่ม 6-1 เมื่อเดือนตุลาคม 2020
– แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานไม่ดีเท่าไหร่กับการเล่นเกมเยือนนัดแรกของซีซั่นในช่วงหลัง โดยเอาชนะได้แค่หนเดียวจาก 5 ปีหลังสุด
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 2-2
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (02:00 น.)
แมนฯ ซิตี้ จะขาดนักเตะแบบ จอห์น สโตนส์ และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา สำหรับเกมนี้และ เควิน เดอ บรอยน์ ต้องพักยาวหลายเดือนเพราะอาการเจ็บแฮมสตริง
รูเบน ดิอาส นั้นก็ต้องรอดูกันอีกทีเนื่องจากพบอาการศีรษะกระทบกระเทือนที่ทำให้เขาพลาดสองเกมแรก
ทางด้าน นิวคาสเซิ่ล ยังคงขาดตัวเดิมๆอย่างเช่นกัน เอมิล คราฟธ์, ฆาเบียร์ มานกีโญ่ และ โจ วิลล็อค
นอกนั้น เฮดดี้ ฮาว เฮดโค้ชของทีมยืนยันว่าไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บให้กังวลเพิ่มเติม
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– แมนฯ ซิตี้ แพ้ให้กับ นิวคาสเซิ่ล เพียงแค่หนเดียวจากที่เจอกัน 31 เกมหลังสุดในลีก (ชนะ 25 เสมอ 5) เกมที่ว่าคือตอนเยือนถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในปี 2009
– แมนฯ ซิตี้ ยังเอาชนะมา 21 จาก 23 เกมลีกหลังสุดที่ลงสนามในรังเหย้าของพวกเขา มีเพียงสะดุดแพ้ต่อ เบรนท์ฟอร์ด และเสมอ เอฟเวอร์ตัน ในปีก่อน
– นิวคาสเซิ่ล หวังที่จะคว้าชัยชนะ 2 นัดแรกของฤดูกาลบนลีกสูงสุดได้เป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1997
– นิวคาสเซิ่ล ยังเก็บคลีนชีตได้เพียงแค่ 2 จาก 19 เกมหลังสุดในลีก แถม 9 เกมหลังสุดที่เล่นเกมเยือนก็ไม่มีคลีนชีตเลย
เบน ฟรีคิกฟันธง : แมนฯ ซิตี้ ชนะ 1-0
ที่มา: soccersuck