ตูไม่ยอม! ‘รูเบียเลส’ ลั่นไม่ลาตำแหน่งปธ.เอฟเอสเปน
หลุยส์ รูเบียเลส ปฏิเสธที่จะลาออกจากตำแหน่งประธานสมาคมฟุตบอลสเปน แม้จะโดนเสียงวิจารณ์อย่างหนักกับการกระทำของเขาในนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก
รูเบียเลส ต้องพบกับแรงกดดันให้ลาออกหลังเอามือจับเป้าตัวเองหลังจบนัดชิงชนะเลิศ แถมยัง จูบ เฆนนี่ เอร์โมโซ กองหน้าของทีมชาติ สเปน ในตอนที่รับแชมป์ด้วย
ฟีฟ่า เดินหน้าสอบสวนในเรื่องนี้แล้วและ รูเบียเลส ยังต้องชี้แจงตัวเองในงานประชุมของสมาคมที่จัดขึ้นในวันนี้ (ศุกร์) โดยบอกว่าการจูบเป็นการสมยอมและตัวเขาไม่มีทางลาออก
“คุณคิดว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่ซีเรียสจนผมต้องออกจากตำแหน่งรึเปล่า หลังจากการบริหารที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลสเปน” รูเบียเลส กล่าว
“ขอบอกให้ทราบนะ ผมไม่ลาออก, ผมไม่ลาออก, ผมไม่ลาออก”
“ผมพบกับแรงกดดันอย่างหนัก บางทีพอถึงวันจันทร์คงมีใครสักคนพยายามที่จะไล่ผมออกให้ได้ แต่เราใช้ชีวิตในประเทศที่มีกฏหมาย การจูบเบาๆแบบสมัครใจเพียงพอที่จะตะเพิดผมแล้วเหรอ? ผมจะสู้จนถึงที่สุด ผมหวังว่ากฏหมายจะทำตามนะ ไม่มีเหตุผลให้ต้องไล่ผมออก จะไม่เป็นเช่นนั้น”
รูเบียเลส ยังชี้แจงถึงการกระทำขงเขาหลังจากชัยชนะของ “กระทิงสาว” โดยบอกว่า “ในช่วงเวลาของความตื่นเต้นอย่างที่สุดผม ผมยังได้จับส่วนนั้นของร่างกาย”
“ผมมองไปที่ ฆอร์เก้ บิลด้า (กุนซือทีมชาติ) ปีนี้เราผ่านอะไรร่วมกันมาเยอะ มีคนอยากทำกับ บิลด้า เหมือนอย่างที่ทำกับผม เป็นการพูดถึงในแบบที่ผิดๆ เราเจ็บปวดมาเยอะ ผมเกิดอารมณ์ชั่ววูบแล้วก็คุมสติตัวเองไม่อยู่… ผมต้องขอโทษพระราชินี, อินฟานต้า และราชวงศ์ ขอโทษเป็นอย่างยิ่ง”
อย่างไรก็ตาม รูเบียเลส วัย 46 ปียืนยันชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิดในเรื่องของการจูบ
“แรงจูงใจของผมในตอนนั้นก็เหมือนกับที่ผมจูบลูกสาวของผมเอง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ทุกคนเข้าใจดี เป็นจูบที่เกิดขึ้นเอง, ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกัน, เกิดจากความตื่นเต้นอย่างมากและสมัครใจ นั่นคือประเด็นสำคัญ”
“เอร์โมโซ่ พลาดจุดโทษ ผมมีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับนักเตะทุกคน… ในตอนที่ เฆนนี่ เดินมาถึง เธออุ้มผมลอยจากพื้น เราเกือบล้ม เรากอดกัน ผมบอกให้เธอลืมเรื่องจุดโทษและเธอทำได้วิเศษ เราคงไม่ได้แชมป์โลกถ้าไม่มีเธอ เธอพูดว่าผมยอดเยี่ยม ผมถ้าเธอว่าจูบมั้ยและเธอตอบว่าได้”
“เริ่มโดยที่ไม่มีประเด็นอะไรและจากนั้นก็เริ่มมีการกดดันนักเตะไม่พูดอะไรและแถลงการณ์จาก เอร์โมโซ่ เป็นเรื่องที่ผมไม่เข้าใจ ไม่มีความยุติธรรมเกิดขึ้น ผมโดนสังคมทำร้าย พวกเขาพยายามเหยียบให้ผมจมดิน”
“เราต้องทราบถึงความแตกต่างระหว่างความจริงกับคำโกหก ผมพูดความจริง เฟมินิสม์จอมปลอมไม่ได้มองหาความยุติธรรมหรือความถูกต้อง มันไม่ได้แคร์ผู้คน… นักการเมืองหลายคนใช้คำพูดอย่างการล่วงละเมิดทางเพศ, ความรุนแรงทางเพศ ผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศจะคิดยังไงกับสิ่งนั้น?”
“คนพวกนี้พยายามเหยียบผมให้จมและผมจะปกป้องตัวเอง เฟมินิสม์แบบผิดๆทำลายผู้คน… สื่อส่วนใหญ่จะพยายามเล่นงานผมต่อไปแต่ผมทราบความจริง รวมถึงสิ่งที่ครอบครัวและสิ่งที่คนรักผมคิดอยู่ ความจริงคือความจริง”
ที่มา: soccersuck
