ตรงเป็นตุง แพ้แบบนี้ “คาใจ”

ตรงเป็นตุง แพ้แบบนี้ “คาใจ”

เจ็บปวดที่แพ้ ไบรท์ตัน เพราะระบบสู้ไมได้ก็เรื่องนึงโอเคยอมรับได้แต่การแพ้ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยน้ำมือคนของตัวเองแฟนผีบอกคาใจ

เห็นได้ชัดว่าสปิริตและความทุ่มเทของนักเตะ แมนฯยูฯ “จัดเต็ม” หลัง 2 เกมในลีกหลังสุดแพ้แบบ back to back ซึ่งพวกทีมระดับ top เขาไม่ปล่อยให้ไร้ชัยเกินมากไปกว่านี้

“พี่เสือ” เป็นรอง แมนฯยูฯ เกือบครึ่งชั่วโมงแถมโชคดีด้วยที่ไม่โดนยิงคาบ้านแต่โอกาสบุกจริงๆจังๆและได้สับไกครั้งแรกของเจ้าถิ่นในนาที 28 เป็นประตูนำหน้าตาเฉย

อันเดร โอนาน่า รับไปเต็มๆกับจังหวะ “ซองแตก” ที่ทำให้เกมที่เคยได้เปรียบฉิบหายวายป่วงในทันที

จากที่ไล่เพรสจนนักเตะ บาเยิร์น มิวนิค ต่อกันไม่ติดทำอะไรเกินครึ่งสนามไม่ได้กลายมาเป็นภาพเดิมๆที่ฝั่ง ยูไนเต็ด โยนความมั่นใจให้คู่แข่งที่จู่ๆตื่นขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

อย่างที่เขาว่าไว้ต่อให้กองหน้าทิ้งโอกาสยิงประตูเป็นสิบๆก็ไม่เท่าผู้รักษาประตูพลาดเพียงแค่ครั้งเดียว (อย่างน้อยยิงไม่เข้าสกอร์ก็ยังไม่ตามหลัง)

แพ้ในเกมที่ บาเยิร์น มิวนิค ไม่ได้เล่นดีเด่อะไรเลยด้วยซ้ำ อย่างที่ เอริค เทน ฮาก พูดหลังจบเกมว่าการบุกมายิง 3 เม็ดถึง เยอรมัน มันควรต้องมีแต้มแล้ว

ดู สเวน อูไรซ์ นายด่านของ “พี่เสือ” สิครับ มือรั่วพอกันยิงตรงเป็นตุงแต่ไม่มีใครพูดถึงในวงกว้างเพราะไม่ได้พลาดและทีมแพ้อย่าง โอนาน่า

ผลงานของอดีตผู้รักษาประตู อินเตอร์ มิลาน ทำให้ชื่อของ ดาบิด เด เกอา โผล่ขึ้นมาทุกๆครั้งหลังจบเกมนับตั้งแต่เปิดซีซั่น

สถานการณ์ไม่ต่างจากแฟน “หงส์” ที่ประเด็นคิดถึง ซาดิโอ มาเน่ กันไหมและกินเวลาร่วมปี

นั่นหมายความว่า โอนาน่า ต้องเลิก “เหวอ” และทีมเก็บชัยชนะจนนิ่งให้ได้ก่อนถึงเวลานั้นผู้คนจะลืม “ลามะ” แบบถาวรไปเอง

ฝีไม้ลายมือของประตู “หมอผี” วัย 27 ปีไม่ใช่ว่าไม่มี ดูสิครึ่งหลังช่วยเซฟจนมือหงิกที่เด่นๆก็ลูกยิง knuckle ของ ซาเน่, ลูกวางเท้าซัดของ โมติง หน้าเขตโทษและลูกยิงเต็มตีนแม่ยายของ เคน

แต่ โอนาน่า ยังมีช็อตประเภท howler หรือ blunder ให้เห็นถี่เกินไปทั้งๆที่ฤดูกาลนี้เล่นมาเดือนเดียวเอง

วันที่แพ้ อาร์เซนอล 3-1 แรชฟอร์ด ยิงนาที 27 แต่โดน โอเดการ์ดตีเสมอในนาทีต่อมา

วันนี้ ฮอยลุนด์ ยิงต้นครึ่งหลังนาที 49 แต่เสียจุดโทษอีก 2 นาทีต่อมา (กว่าจะเช็ก VAR และยิง + อีก 2 นาที)

รวมถึงลูกที่ไล่มา 3-2 ในนาที 88 ของ คาเซมิโร่ ที่โดน เตล ตัวสำรองกดหนีห่าง 90+1 อย่างรวดเร็ว

นั่นหมายความว่า ยูไนเต็ด ไม่เคยต่อยอดฉวยโอกาสความได้เปรียบ (กับปืน) และกลับสู่เกมแบบจริงๆจังๆ (กับพี่เสือ) ได้เลย เป็นสถานการณ์ที่น่าหงุดหงิดสุดๆ

บอกตามตรงช่วง 0-0 ผมไม่แปลกใจเลยที่ “ปีศาจแดง” เป็นฝ่ายบีบให้ บาเยิร์น อยู่ในเกมของพวกเขาเพราะลักษณะสไตล์การเล่นของ “พี่เสือ” จัดการง่ายกว่า ไบรท์ตัน เยอะ

มันไม่ใช่การคิดแบบสมการที่ว่า ไบรท์ตัน เป็นทีมเล็กกว่ายังแพ้แล้วเจอ บาเยิร์น รูปเกมจะไปเหลืออะไร

ถ้าเปรียบเทียบกับอารมณ์ของคนกล่าวคือ “นกนางนวล” เป็นพวกไม่ค่อยพูดและไม่แสดงออกว่าชอบหรือไม่ชอบ เล่นบอลจุกจิกคาดเดายาก

ตรงกันข้ามกับ “พี่เสือ” ที่ชอบหรือไม่ชอบแสดงออกทางสีหน้าชัดเจน หมายถึงกูบุกสไตล์นี้ ถือไม้หน้าสามเปิดตัวให้เห็นกันไปเลย

เช่น เลรอย ซาเน่ สไตล์โคตรพ่อแม่เลี้ยง เลี้ยงจนทีมจังหวะพังแม้กระทั่งเพื่อนที่ยืนว่างอยู่ห่างออกไป 10-20 หลาแต่พี่ท่านก็ยังอุตสาห์เลี้ยงๆๆเข้าไปหาเพื่อนจนกระทั่งเสียบอล

ยูไนเต็ด รับมือกับการเล่นอะไรแบบนี้ง่ายกว่า

ครับความพ่ายแพ้ในเกมนี้สิ่งที่ผมหรือแฟน “ผี” อาจมองเห็นจุดเล็กๆแต่อาจเป็นเรื่องใหญ่มหาศาลที่เอาไปต่อยอดได้ (ถ้าคิดจะทำ)

คือการไม่หวงบอลหรือติดเลี้ยงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ช่วยและมีส่วนกับการได้ 2 ประตูที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า

การจ่ายไวให้ ฮอยลุนด์ ได้สับไกและลูกสะกิดที่ทำให้เกิดจังหวะนัวเนียก่อน คาเซมิโร่ โชว์ลูก “พระนอน” ยิงทดเจ็บ 90+5

เวลาผมเตะบอลกับน้องๆที่มันติดเลี้ยง ถ้าผมเอ็นดูก็จะสอน (แนะนำ) ให้พยายามเล่นไม่ให้ซ้ำรูปแบบ สร้างความสับสนให้ฝ่ายตรงข้าม

ดูอย่าง เมสซี่ แกเลี้ยงเพราะโดนตามเก็บประจำแต่พอดึงตัวได้แกจะส่งต่อให้เพื่อนที่ยืนว่างหรืออยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า การทำอะไรซ้ำๆแบบเดิมนอกจากไม่ช่วยให้ตัวเองก้าวข้ามไปถึงไหนแล้วมันตัดการสร้างโอกาสทำประตูของทีมเต็มๆ

สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่าคำขอโทษของ โอนาน่า แฟน “ผี” ยินดีรับไว้และพร้อมอ้าแขนสนับสนุนอยู่แล้ว

การตอบแทนคืนด้วยการเล่นให้สม่ำเสมอและเลิกเหวอ แค่นี้ที่ทุกคนต้องการครับ…

สถิติ สถิติ สถิติ

แมนฯยูฯ แพ้ไปแล้ว 18 จาก 35 เกมนัดเยือนในทุกรายการ คิดเป็น 51% จากตัวเลขชนะ 13 เสมอ 4 โดยหากเริ่มนับตั้งแต่มีนาคม 2022 มีเพียง เวสต์แฮม ทีมเดียวเท่านั้นที่แพ้นัดเยือนมากกว่า ยูไนเต็ด (20 เกม)

“ปีศาจแดง” แพ้ 4 จาก 6 เกมแรกของฤดูกาลในทุกรายการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ 1986-87 ที่คุมทีมโดย รอน แอตกินสัน ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้ามารับเผือกร้อนต่อก่อนเป็นตำนานในที่สุด

ฤดูกาลนี้เริ่มมา 1 เดือน ยูไนเต็ด เสีย 14 ประตูในทุกรายการ ครองแชมป์โดนยิงมากที่สุดในบรรดาทีมพรีเมียร์ลีก

“ผีแดง” เสีย 2+ ประตู 5 เกมติดต่อกันเป็นหนแรกนับตั้งแต่พฤษภาคม-สิงหาคม 2001

แซร์จ กนาร์บี้ ยิง 7 ประตูใน 6 เกมหลังที่เจอกับทีมจาก อังกฤษ ในรายการ UCL (สเปอร์ส 4 และ เชลซี 2)

บาเยิร์น มิวนิค เอาชนะเกม “เปิดหัว” ใน UCL มาตลอด 20 ครั้งที่เข้าร่วมรายการนี้และหากนับแบบชนะ “ติดต่อกัน” ก็ยังเป็น “พี่เสือ” ที่ทำได้มากกว่าใครด้วยจำนวนทั้งสิ้น 12 เกม

เลรอน ซาเน่ ยิงประตูใส่ ยูไนเต็ด ได้ติดต่อกันโดยนับรวมปี 2019 ในสีเสื้อ แมนฯซิตี้ โดยปีกหยองหยอยมีส่วนร่วมกับ 20 ประตูใน 18 เกมในบ้านรายการ UCL (12 ประตู 8 แอสซิสต์)

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: