5 เหตุผลที่ไม่ควรพลาดชม “มาดริด ดาร์บี้”
#SSxLaLiga | หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลไปแล้วกว่า 1 เดือน เรอัล มาดริด เป็นทีมเดียวที่เก็บชัยชนะแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่นัดต่อไปต้องบุกเยือนแอตเลติโก้ มาดริด ที่หวังจะหยุดสถิติอันสวยหรูของคู่ปรับร่วมเมืองให้ได้
การพบกันระหว่างแอตเลติโก้ มาดริด และเรอัล มาดริด คือหนึ่งในนัดสำคัญของการแข่งขันลาลีกาในแต่ละฤดูกาล นอกจากชัยชนะที่ทั้ง 2 ทีมต้องการแล้ว ยังแย่งชิงความเป็นอันดับ 1 ของเมืองหลวงด้วย
ฟุตบอลลาลีกา สเปน สุดสัปดาห์นี้ ไฮไลท์อยู่ที่คู่ซูเปอร์ดาร์บี้แมตช์ ระหว่างแอตเลติโก้ มาดริด จะเปิดเอสตาดิโอ ซิบิตาส เมโทรโปลิตาโน่ พบกับเรอัล มาดริด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน เวลา 02.00 น.
นี่คือศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใครระหว่าง 2 สโมสรจากเมืองหลวงของสเปน และนี่คือ 5 เหตุผลดีๆ ที่ไม่ควรพลาดชมศึกดาร์บี้แมตช์แห่งกรุงมาดริด ครั้งที่ 173 ในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ
การดวลฝีมือของ 2 ยอดโค้ช ซิเมโอเน่ vs อันเชล็อตติ
ดาร์บี้แมตช์แห่งกรุงมาดริด นัดแรกของฤดูกาลนี้ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ผู้จัดการทีมของแอตเลติโก้ มาดริด และคาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ของเรอัล มาดริด 2 สุดยอดโค้ชแห่งวงการฟุตบอล จะพบกันเป็นครั้งที่ 21
สถิติการพบกันในลาลีกา 20 ครั้งที่ผ่านมา ถือว่าสูสีกันมาก ซิเมโอเน่ ชนะ 7 ครั้ง, อันเชล็อตติ ชนะ 8 ครั้ง และเสมอกัน 5 ครั้ง โดยเมื่อซีซั่นที่แล้ว ทีมของอันเชล็อตติ ชนะ 2 – 1 ในเกมเยือน และเสมอในบ้าน 1 – 1
เกมเหย้าของแอตฯ มาดริดหนแรก ในรอบกว่า 1 เดือน
ในฤดูกาลนี้ แอตเลติโก้ มาดริด เพิ่งลงเล่นในบ้านที่เอสตาดิโอ ซิบิตาส เมโทรโปลิตาโน่ ไปเพียง 1 เกมเท่านั้น ในแมตช์เปิดซีซั่นที่ถล่มกรานาด้า 3 – 1 จากผลงานของอัลบาโร่ โมราต้า, เมมฟิส เดปาย และมาร์กอส ยอเรนเต้
สำหรับเกมที่แอตฯ มาดริด เปิดบ้านพบกับเซบีย่าเมื่อช่วงต้นเดือนนั้น ได้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากมีพายุฝนถล่มอย่างหนัก นั่นทำให้ศึกดาร์บี้แมตช์ในสุดสัปดาห์นี้ คือเกมเหย้าของพวกเขาครั้งแรก หลังจากห่างหายไป 41 วัน
งานหนักของแอตเลติโก้ ในการหยุดคู่ปรับจอมคัมแบ็ค
ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือของแอตเลติโก้ มาดริด กำลังจะเจอกับเรอัล มาดริด ซึ่งเป็นทีมเดียวที่ชนะเกมลาลีกาตลอด 5 นัดแรกของซีซั่นนี้ โดยในจำนวนนี้ มีถึง 3 นัด ที่ตามหลังคู่แข่งไปก่อน แล้วกลับมาแซงคว้าชัยได้สำเร็จ
ศึกผ่าเมืองมาดริดในครั้งนี้ ถือเป็นงานที่ไม่ง่ายเลยสำหรับเฮดโค้ชชาวอาร์เจนไตน์วัย 53 ปี อีกทั้งสถิติการพบกันในระยะหลัง ก็ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ โดย 5 เกมหลังสุดที่เจอกับราชันชุดขาวในบ้าน ชนะได้เพียง 1 เกมเท่านั้น
แอตเลติโก้ จำเป็นต้องชนะให้ได้ เพื่อกลับสู่หัวตาราง
เป้าหมายของแอตเลติโก้ มาดริด ในฤดูกาลนี้ คือการท้าชิงบัลลังก์กับเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า แต่ออกสตาร์ท 4 นัด
แรก พวกเขาทำคะแนนหล่นไปแล้ว 5 แต้ม แม้จะมีเกมตกค้างในมือกับเซบีย่า ช่วงปลายปีนี้ก็ตาม
ถ้าแอตฯ มาดริด ต้องการกลับคืนสู่เส้นทางลุ้นแชมป์ พวกเขาจำเป็นจะต้องเอาชนะคู่ปรับร่วมเมืองให้ได้ เพื่อลดช่องว่างเหลือ 5 แต้ม แต่หากแพ้คาบ้าน จะตามหลังถึง 11 แต้ม ซึ่งจะทำให้การลุ้นแชมป์ยากลำบากขึ้นไปอีก
ศึกดาร์บี้แมตช์เมืองหลวงครั้งแรกของ จู๊ด เบลลิงแฮม
มีนักเตะหลายคน ที่อาจจะได้ลงสนามในศึก “มาดริด ดาร์บี้” เป็นครั้งแรก เช่น เซซาร์ อัสปิลิกวยต้า, ฆาบี้ กาลัน, เกปา อาร์ริซาบาลาก้า, โฆเซลู, ฟราน การ์เซีย รวมถึงนักเตะที่น่าจับตามองที่สุดอย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม
เบลลิงแฮม มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 20 ปี ของเรอัล มาดริด ออกสตาร์ทซีซั่นด้วยฟอร์มที่ร้อนแรง ยิง 5 ประตู จาก 5 นัดแรกในลาลีกา และล่าสุดเพิ่งยิงประตูชัยพาทีมเอาชนะยูนิโอน เบอร์ลิน 1 – 0 ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แม้ว่าแอตเลติโก้ มาดริดจะถูกมองว่าเป็นรอง แต่เชื่อว่าพวกเขาก็คงจะไม่ยอมง่ายๆ และหวังที่จะเก็บชัยชนะในเกมที่เต็มไปด้วยความพิเศษอย่างดาร์บี้แมตช์ เพื่อให้แฟนบอลเรอัล มาดริด รู้สึกเสียหน้าที่พ่ายแพ้
ที่มา: soccersuck