เนฟชี้ ‘ปืน’ ไม่ควรได้จุดโทษ-‘พี่ต้า’ ขาดความนิ่ง
แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็คขวา แสดงทัศนะชี้ว่า ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไม่ควรเสียจุดโทษจังหวะแฮนด์บอล พร้อมวิเคราะห์ปัญหา อาร์เซน่อล ขาดความนิ่งโดยเฉพาะตัว มิเกล อาร์เตต้า เฮดโค้ชพลังหนุ่ม
ต้นครึ่งหลังที่ เอมิเรตส์ เกิดจังหวะกังขาขึ้น เบน ไวท์ ตวัดยิงเผาขนติดแขน คริสเตียน โรเมโร่ แล้วผู้ตัดสินเป่าจุดโทษ โดยดูจอข้างสนามยืนยัน ก่อนที่ บูกาโย่ ซาก้า สังหารให้ “ปืนใหญ่” ขึ้นนำรอบสอง
“VAR ดูภาพช้าไป 25 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาก็ไม่แน่ใจ และในฐานะกองหลัง ผมคิดว่ากรรมการไม่ควรให้จุดโทษ” อดีตแข้ง แมนฯ ยูไนเต็ด รับหน้าที่กูรูแสดงทัศนะ
“โรเมโร่ พยายามบล็อคลูกยิงอย่างสุดชีวิต เขาคุกเข่าลงกับพื้นและยกแขนขึ้น คุณลองดูที่บ้านก็ได้ แต่สำหรับผม มันคือตำแหน่งธรรมชาติ”
“มีหลายคนที่เห็นด้วยกับผม และมีหลายคนที่จะเห็นต่าง แต่ยังไงก็ตามหาก VAR ใช้เวลาตัดสินนานขนาดนั้น พวกเขาจะแน่ใจได้ยังไง?”
อาร์เซน่อล ขึ้นนำไม่ถึงนาที จอร์จินโญ่ ทำเสียบอลกลางสนามโดน เจมส์ แมดดิสัน จ่ายให้ ซง ฮึง มิน ยิงประตูที่สองของตัวเอง และช่วย “ไก่เดือยทอง” แบ่งแต้มจาก เอมิเรตส์ ด้วยสกอร์ 2-2
“ผมต้องการเห็นความนิ่งจาก อาร์เซน่อล ทีมนี้ แต่นั่นเป็นเรื่องยากเมื่อผู้จัดการทีมพวกเขา กระโดดไปมาที่ข้างสนามจนคุณไม่อยากจะเชื่อ” เนวิลล์ กล่าวต่อ
“ผมต้องการเห็นแพสชั่น ขณะเดียวกันก็ต้องมีความเยือกเย็นด้วย มันฟังดูย้อนแย้ง แต่คุณต้องรักษาความสมดุล”
“เกมนี้ ซาก้า ยิงจุดโทษอย่างเฉียบคม ซึ่ง อาร์เซน่อล ย่อมสามารถฉลองได้ แต่ควรมีผู้เล่นซีเนียร์ 2-3 คนกระตุ้นให้รักษาสมาธิกับเกม”
“จอร์จินโญ่ ควรทำได้ดีกว่านั้น แต่สิ่งสำคัญเมื่อเสียประตูหลังจากเพิ่งยิงได้ คือคุณไม่ได้เรียกทัศนคติที่ถูกต้องกลับมา”
อีกหนึ่งปัญหาที่ เนวิลล์ มองเห็นคือ อาร์เซน่อล ขาดกองหน้าสัญชาติญาณ ถึงแม้จะมี กาเบรียล เชซุส กับ เอ็ดดี้ เอ็นเคเตียห์ อยู่ในสนามก็ตาม
“ยุคสมัยของกองหน้าที่รอยิงอย่างเดียวได้จบลงแล้ว แต่เรากำลังพูดถึงใครสักคนที่รู้ว่าควรยืนตรงไหนเพื่อทำประตู” อดีตกุนซือ บาเลนเซีย เพิ่มเติม
“ยกตัวอย่างเช่น เอียน ไรท์ ที่คอยหาช่องในเขตโทษอยู่ตลอด ซึ่งวันนี้ เอ็นเคเตียห์ ไม่ได้ทำแบบนั้น เขาแค่ยืนรอบอล, ก่อนหน้านั้น กาเบรียล เชซุส ฉกบอลจาก แมดดิสัน ได้แต่เขาพลาดโอกาสสำคัญ”
“อาร์เซน่อล สามารถเป็นแชมป์ได้โดยไม่ต้องมีผู้เล่นลักษณะดังกล่าว แต่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า นั่นคือสิ่งที่พวกเขาขาดไปในเกมนี้”
ที่มา: soccersuck