วันนี้รอด วันหน้าลุ้นต่อ

ไม่แน่ใจว่านี่คือแต้มบุญสุดท้ายของ เอริค เทน ฮาก ที่ใช้หมดแล้วหรือไม่หลังนักเตะที่อยากขายทิ้งในซัมเมอร์นี้อย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ เป็นผู้ต่ออายุให้เจ้านายอย่างหวุดหวิด

จะบอกว่าเป็นการแก้เกมของ ETH ก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก

หากมองตำแหน่งเป็นตัวรับและลงสนามในนาที 87 มันออกแนวไม่มีทางเลือกกับโควต้าสุดท้ายเนื่องจากไพ่ใบอื่นๆถูกส่งไปก่อนหน้านี้แล้ว 4 ใบ

ถ้าพูดถึงคนที่ยิงประตูในแต่ละเกมเชื่อว่า แม็คโทฯ น่าจะเป็นชื่อสุดท้ายที่เหล่า “เร้ดอาร์มี่” จะนึกถึงแต่พรี่เขาเหมา 2 ลูกทดเจ็บ 90+3 และ 90+7 รวมแล้วอยู่ในสนามเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น

การพลิกแซง เบรนท์ฟอร์ด 2-1 ทำให้ แมนฯยูฯ ไม่แพ้คาบ้านติดต่อกัน 3 นัดและทำให้สถานการณ์ไม่วิกฤติหนักไปกว่านี้

ผมไม่กล้าบอกว่านี่จะเป็นจุดเปลี่ยนของ “ปีศาจแดง” เพราะสิ่งที่ทุกคนเห็นมันคือปัญหาที่เกิดขึ้นทุกสัปดาห์ซึ่งยังไม่ได้รับการแก้ไขและไม่รู้ด้วยว่าจะเกิดขึ้นอีกวันไหนและเกมไหน

ใช่ครับ “เดอะตุง” อังเดร โอนาน่า ยังโดนยิงลูกง่ายๆตรงเป็นตุงอีกเช่นเดิม

ความมั่นใจต่อเพื่อนร่วมทีม ณ ชั่วโมงนี้บอกเลย 0 ครับ

ประตูที่โดน “ผึ้งน้อย” ที่บุกนับครั้งได้ยิงขึ้นนำช็อกคนดูทั้งสนามเป็นความผิดพลาดหลายภาคส่วนด้วยกัน

ไล่ตั้งแต่ คาเซมิโร่ ที่ปีนี้เล่นตกไปเยอะจ่ายบอลง่ายๆกลางสนามเข้าเท้าฝั่งตรงข้ามหน้าตาเฉย

จังหวะต่อเนื่องแนวรับเคลียร์กันไม่ขาดกระเด้งเป็นพินบอลเข้าทาง แยนเซ่น ที่ทั้งยิงเบาแถมทิศทางกลางประตู

แต่ โอนาน่า เซฟไม่ได้!!

คุณโทษกองหลังที่ปล่อยให้บอลมาจบลงที่การยิงของ แยนเซ่น ก็ส่วนนึงแต่ประเด็นคือ โอนาน่า ไม่สามารถเซฟลูกที่นายทวารดาดๆทั่วไปเขาเซฟได้ นี่คือปัญหา

ช่วงพักครึ่งน่าสนใจมากครับ “ยักษ์เดน” ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล วิเคราะห์ภาพกราฟฟิคซูมไปที่ขาของ โอนาน่า ที่จัดท่าทางพร้อมที่จะกระโดดขึ้นด้านบน

ชไมเคิ่ล บอกว่าผู้รักษาประตูมักจะซ้อมพุ่งเซฟขนานกับพื้นเป็นลำดับแรก ไม่ใช่ว่าพุ่งขึ้นด้านบนและค่อยลงล่าง

“ยักษ์เดนส์” ตั้งข้อสังเกตว่าความผิดพลาดครั้งนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับวันที่บุกแพ้ บาเยิร์น มิวนิค ใน UCL คือยกตัวเองลอยขึ้นจากพื้นไม่ใช่พุ่งออกด้านข้าง

ตำนานผู้รักษาประตู ยูไนเต็ด ในวัย 59 ปียังแคร์สโมสรอยู่ตลอดนะครับเพราะเขานี่บอกเองว่าได้คุยกับ โอนาน่า ตลอดไม่ว่าจะเกมกับ บาเยิร์น, เกมกับ กาลาตาซารายว่าเขาทำพลาดอะไรบ้างแต่ผลลัพท์ยังออกมาเหมือนเดิม

อย่างที่ผมเคยบอกว่าถ้า ETH จะดันก็คงต้องดันให้สุดและในระหว่างนี้ต้องภาวนาให้แนวรุกช่วยยิงเก็บชัยไปพลางๆเพื่อรอให้ โอนาน่า ค่อยๆกลับเข้าที่เข้าทาง

ซึ่งถ้าจะต้องให้พูดถึงเกมรุกชั่วโมงนี้ก็มีปัญหาไม่แพ้กันเพราะในระหว่างที่ ฮอยลุนด์ กำลังเป็นตัวความหวังแต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้และก้มหน้าก้มตาเลี้ยง

รูปแบบการเข้าทำของ “ปีศาจแดง” ซ้ำซากเหมือนถูกรีรันใหม่คือพึ่งพาความสามารถเฉพาะตัวและโยนหรือครอสวัดดวงซึ่งคู่แข่งสามารถเปิดยูทูปเตรียมตัวรับมือได้ง่ายๆ

ครับ 3 แต้มเหนือ เบรนท์ฟอร์ด เป็นแค่การ “เบรก” อารมณ์หัวร้อนของแฟนผีได้ระยะนึงเท่านั้นเพราะปรากฏการณ์ Miracle of McTominay ยากที่จะเกิดขึ้นซ้ำสองหรือไม่มีอีกแล้วก็เป็นได้…

สถิติ สถิติ สถิติ

นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ แมนฯยูฯ ตามหลังคู่แข่งจนเข้าสู่นาที 90 ก่อนจบลงด้วยเป็นผู้ชนะในบั้นปลาย

10 ประตูหลังสุดของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ยิงให้ แมนฯยูฯ มาจากการลงเล่นที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด ทั้งหมดโดยมีเพียง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีสถิติยิงต่อเนื่องในบ้านมากที่สุดให้ ยูไนเต็ด (11 เกมระหว่างมินาคม 1999-เมษายน 2009)

นอกจากนี้ แม็คโทฯ เป็นนักเตะคนแรกที่ยิง 2 ประตูในนาที 90 หรือมากกว่านั้นในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ ยิงให้ สเปอร์ส ในเกมพบ เลสเตอร์ เมื่อเดือนมกราคม 2022 ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นฮีโร่ยิงแซงคว้าชัยเหมือนกันด้วย

เป็นหนที่ 3 ของ แมนฯยูฯ ที่เสียประตูแรกให้คู่แข่งใน 4 นัดติดที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด โดยก่อนหน้านั้นครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์/มีนาคม 2014 (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 2) และหน 2 กรกฏาคม/กันยายน 2020 (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1)

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด