โชต้าคัมแบ็ค ของขวัญจากซานต้า

โชต้าคัมแบ็ค ของขวัญจากซานต้า

อุตสาห์คิดเล่นๆแบบประชดในใจตั้งแต่ขึ้นนำ 1-0 ว่าเกมนี้คงไม่บีบหัวใจเหงื่อออกมือเหมือนที่ผ่านๆมาแต่ดั๊นซื้อหวยไม่ถูกว่ะครับ

เห็นๆกันอยู่ เบิร์นลีย์ บอลง่อยสุดๆเล่นไม่มีอะไรเลยโดนเพรสนิดหน่อยก็ตกใจเสียบอลคืนให้แล้ว พยายามจะเล่นบอลโมเดิร์นแต่ QC ไม่ผ่านอย่างแรง

ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล พับสนาม, ขึงเกมและมีโอกาสยิงกระจายร่วม 14 หนใส่ “รองบ๊วย” โดยที่ แทรฟฟอร์ด ต้องเซฟถึง 8 ครั้งเน้นๆ

แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อที่กว่าจะปิดเกมได้ต้องรอถึงนาที 90 และไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นคนที่พวกเราคิดถึงเหลือเกิน

ดิโอโก้ โชต้า ไม่พูดเยอะยิงครั้งแรกคือเข้าเลย แล้วมุมแม่งแทบไม่มีด้วย!!

ในระหว่างสกอร์หยุดอยู่แค่ 1-0 หัวใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทุกๆครั้งที่ เบิร์นลีย์ บุกขึ้นมาโดยเฉพาะอีตา วิลสัน โอโดแบร์ ที่กระชากผู้เล่นทีมเยือนเป็นกรวย 2-3 หน

หรือแม้กระทั่ง เอนโดะ จ่ายขวางสนามโดนตัดได้ คือถ้าเข้าชีวิตเข้าสู่ปี 2567 แบบเศร้าหมองชิบหาย

ครับการใช้โอกาสเปลืองก็ส่วนนึงแต่วันนี้ พอล เทียร์นี่ย์ ผู้ตัดสินและทีมงาน VAR มีส่วนทำให้ เบิร์นลีย์ จู่ๆเป็น walking dead มีแรงฮึดขึ้นมา

โอเค ลูกแรกที่ VAR ริบผมยอมรับได้เพราะลักษณะท่าทางของ ดาร์วิน ยกแข้งขาเข้าข้างหลัง เขาก็ต้องเป่าให้ทีมเสียประโยชน์

แต่ประตูของ เอเลียตต์ คือกูเอ้ยผมไม่ยอมรับครับ!!

ซาลาห์ โดนผลักจนตัวหลุดไปอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ไม่ได้มีเจตนาไปยืนบังไลน์ แทรฟฟอร์ด ใดๆ หรือพูดตามทรงแล้วไม่บังก็ไม่น่าเซฟทัน

แต่ VAR ไม่ดูจังหวะโดนผลักซึ่งหลังเกมเล่นต่อทางทีวีได้มีการฉายภาพรีเพลย์ตอน “บัง” โดนผลัก นั่นหมายความว่ามีความเห็นแย้งเกิดขึ้น

ผลงานสม่ำเสมอไม่มีแผ่ว เช็กซะละเอียดยิบ ทีมงานสิงห์เชิร์ดดำชุดเดิม ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ

เอาล่ะครับ ปกติคนเราเสียใจต้องร้อง”ไห้” ใช่ไหมครับแต่วันนี้ผมดีใจจนต้องร้อง “ไห้” แบบคนญี่ปุ่น

เพราะคนดีคนเดิม “เอนโดะ” นักรบซามูไร ตัดลูกจ่ายแล้วโดนตัดหน้าประตู ที่เหลือแกแบกเกมรับ สู้ทุกเม็ด ลูกกลางอากาศที่เรารู้ๆกันว่าโหม่งเก่ง ช่วยทีมได้เต็มแม็กซ์อีกนัด

สำคัญเลยลูก 2-0 เอนโดะ พลีชีพไปบวกจนเอาชนะก่อนบอลไปเข้าทาง เคอร์ติส โจนส์

ที่ผมอยากพูดถึงเป็นการส่วนตัวคือ กัคโป ที่ผมชอบมิติการยืนฝั่งซ้ายซึ่งชัดเจนว่าอดีตแข้ง พีเอสวี วูบวาบและดูเหมือนกระดี่ได้น้ำกับการเล่นริมเส้น

ผมอยากให้ หลุยส์ ดิอาซ ดูไว้ว่าการจะเจาะแนวรับคู่แข่งไม่จำเป็นต้องวันแมนโชว์ ทำชิ่ง 1-2 วิ่งตัวเปล่าเซฟกว่าปลอดภัยกว่าดึงตัวประกบได้ดีกว่า

ดังเช่นลูกที่ “หนูน” ชิ่งคืนให้ (ก่อนโดนเตะร่วง) และเพลย์ต่อมาคู๋นี้เชื่อมกันต่อจนกระทั่งเกิดประตูสุดสวยของ ดาร์วิน ที่ปลดล็อกยิงลูกแรกในรอบ 12 เกมได้ซักที

สิ่งที่ผมไม่ชอบจากแฟน “หงส์” ด้วยการคือการด่านักเตะตั้งแต่เห็นไลน์อัพ มีแต่คนด่า กราเฟนแบร์ค บอกกากตั้งแต่เกม อาร์เซนอล แต่ยังส่งลง

คือวันที่เสมอ “ปืนใหญ่” หลายคนก็เล่นไม่ออกนะครับโดยเฉพาะแดนกลาง ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เนียนกว่าต้องยอมรับด้วย

แต่กับ เบิร์นลีย์ ผมมั่นใจในตัวกราฟอยู่แล้ว เกรดคนละเกรด แกะเพรสดีกว่าเยอะเช่นเดียวกับ เอเลียตต์ ที่น้องยิ่งเล่นยิ่งเห็นแวว

ต้องบอกว่าทันทีที่ JK เปลี่ยนกลาง 2 ตัว บอลเป็นรองเลย โซโบ กับ โจนส์ โดนดูดหาย แถมเกมรับตรงกลางหลวมโดนเจาะง่ายกว่าเดิมด้วย

บอลมาวิจารณ์มาด่าหลังเกมจบมันพอมีเหตุผลอยู่ครับแต่เอาตั้งแต่ยังไม่เขี่ยผมขออนุญาต “ขากถุย” นะครับ

ภารกิจวันนี้แม้อึดอัดและโคตรเครียดแต่ท้ายที่สุดสกอร์ 2-0 ขึ้นจ่าฝูงและได้ โชต้า กลับมาเป็นการแกะกล่องของขวัญฉลองส่งท้ายปีที่ไม่เลวเลยนะครับ…

สถิติ สถิติ สถิติ

ภายใต้การทำทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ลิเวอร์พูล ชนะรวดทั้ง 6 เกมในวันบ็อกซิ่งเดย์ เป็นผู้จัดการทีมที่มีสถิติดีที่สุดคือ 100%

ดาร์วิน นูนเญซ ยิงประตูจากนอกกรอบเขตโทษในระดับสโมสรเป็นหนแรกนับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2021 (สมัยอยู่เบนฟิก้า) โดย 40 ลูกที่ผ่านมาล้วนแล้วแต่ยิงในกรอบทั้งสิ้น

เบิร์นลีย์ เป็นทีมแรกในลีกสูงสุดของอังกฤษที่แพ้ 9 จาก 10 เกมแรกในบ้าน

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: