เรือส่อไร้ ‘ฮาลันด์’ เจอท๊อฟฟี่, สิงห์ขาด ‘พัลเมอร์-ราฮีม’…ปรีวิว พรีเมียร์ลีก
วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566
เบรนท์ฟอร์ด – วูลฟ์ส (02:30 น.)
เบรนท์ฟอร์ด จะขาด เบน มี คุมแนวรับเพราะโดนไล่ออกในเกมพบ วิลล่า ต้องชดใช้โทษแบน 3 นัด
แฟรงค์ ออนเยก้า ก็สะสมใบเหลืองครบแล้วต้องติดโทษแบนเหมือนกัน หมายความว่าพวกเขาอาจขาดนักเตะถึง 10 รายเพราะปัญหาเจ็บและโทษแบน
วูลฟ์ส นั้นอาจต้องประเมินความพร้อมของ เคร็ก ดอว์สัน ที่พบแผลแถวหัวเข่าจากเกมชนะ เชลซี
ฌ็อง-รีคเนร์ เบลเลอการ์ด, บูบาคาร์ ตราโอเร่ และ ฟาบิโอ ซิลวา ต่างมีอาการป่วยกันหมดและ เปโดร เนโต้ อาจกลับมามีชื่ออีกครั้งหลังพักมาตั้งแต่เดือนตุลาคม
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 0-0
เชลซี – คริสตัล พาเลซ (02:30 น.)
เชลซี จะหวังให้ มอยเซส ไคเซโด้ หายจากอาการป่วยกลับมาทันเวลาสำหรับการลงสนามเกมนี้
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ โคล พัลเมอร์ ต่างติดโทษแบนในขณะที่ เอนโซ แฟร์นานเดซ และ เลสลี่ย์ อูโกชุควู ก็มีอาการบาดเจ็บ
สำหรับ พาเลซ นั้นพอมีลุ้นที่จะได้ อ๊อดซอนน์ เอดูอาร์ หายกลับมาจากปัญหาเกี่ยวกับหัวเข่า
กระนั้นพวกเขาจะขาดนักเตะอย่าง แซม จอห์นสตัน, โจเอล วอร์ด, ร็อบ โฮลดิ้ง, ชีค ดูคูเร่ และ เจซูรุน รัค-ซาคี่ ไปแน่นอน
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ตอนนี้ พาเลซ พบกับความพ่ายแพ้ต่อ เชลซี มา 11 นัดติดต่อกันในลีก
– เชลซี หาชัยชนะไม่เจอเลยเมื่อต้องเปิดรังเหย้าพบกับสโมสรจากลอนดอนด้วยกันใน 4 นัดที่ผ่านมาหรือนับตั้งแต่ตอนเจอกับ พาเลซ เมื่อเดือนมกราคม (เสมอ 2 แพ้ 2)
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1
เอฟเวอร์ตัน – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (03:15 น.)
เอฟเวอร์ตัน จะจับตาดูความพร้อมของ อิดริสซ่า เกย์ ที่โดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแรกของเกมพ่ายต่อ สเปอร์ส
แอชลี่ย์ ยัง กับ เชมุส โคลแมน ต้องรอเช็คความฟิตทั้งคู่ในขณะที่ อับดูลาย ดูคูเร่ ก็จะต้องพลาดเกมนี้ไปอีกนัด
แมนฯ ซิตี้ นั้นหวังว่า โรดรี้ จะฟิตพร้อมสำหรับการลงสนามแม้โดนเข้าปะทะหนักจากเกมชิงแชมป์สโสมรโลก
เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ก็น่าจะยังไม่พร้อมคืนสนามเพราะปัญหาเจ็บเท้าและพวกเขายังขาด เควิน เดอ บรอยน์ กับ เฌเรมี่ โดคู ตามเดิม
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– แมนฯ ซิตี้ มีลุ้นเก็บชัยชนะ 8 เกมติดต่อกันในทุกรายการกับการไปเยือน เอฟเวอร์ตัน
– ถึงอย่างนั้น แมนฯ ซิตี้ เอาชนะได้แค่เกมเดียวจากการลงสนามในพรีเมียร์ลีก 6 นัดหลังสุด (เสมอ 4 แพ้ 1) ซึ่งเกมที่ว่าคือการพบกับ ลูตัน
เบน ฟรีคิกฟันธง : แมนฯ ซิตี้ ชนะ 2-0
ที่มา: soccersuck
