ลูกคุณ (แม็คโทฯ) ไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน
กระแสมุ่งไปในทิศทางเดียวกันโดยไม่ต้องนัดหมายกับการแพ้นัดที่ 9 จาก 20 นัดของ แมนฯยูไนเต็ด คือการลงมาเปลี่ยนเกมของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์
ผมนั่งฟัง ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ตำนานผู้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ “ปีศาจแดง” 5 สมัยและ สจ๊วต เพียรซ์ อดีตแบ็คซ้ายผู้คว้าแชมป์ “ลีก คัพ” 2 สมัย กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
แน่นอนครับ main topic มุ่งตรงไปที่ “แม็คโท” โดย “ยักษ์เดนส์” โคตรงงและอยากรู้จริงๆว่า เอริค เทน ฮาก เปลี่ยนตัวทำไมเปลี่ยนเพื่ออะไร มีแรงดลใจจุดไหนถึงกล้าทำอะไรเช่นนี้
ชไมเคิ่ล บอก “ไมนู” เล่นดีมากและสำคัญเลยคือ anticipation หรือ “ทางบอล” การยืนตำแหน่งที่ทำประโยชน์ให้ทีมตลอดทั้ง 45 นาที
ดังนั้นการเปลี่ยนเอา แม็คโทฯ ลงในช่วงพักครึ่งจึงเป็นเรื่องประหลาดอย่างที่สุดเพราะทีมไม่ได้มีปัญหา ณ ตำแหน่งนี้เลย
พูดได้ว่า ETH ได้ขุดหลุมศพให้ตัวเองไปแล้วเนื่องจากจากสกอร์ 0-0 โดน 2 เม็ดจากการที่นักเตะ “เจ้าป่า” unmarked ทั้งสิ้น
แม็คโทฯ ไม่เคยระแวดระวังเหลียวมองเช็กรอบตัวหรือมีเซนส์ของเหล่า defensive player ที่มักได้กลิ่นตุๆก่อนคนอื่นเสมอ
โอเคลูกแรกผมมองว่าอาจยังไม่ชัดเพราะมีการผิดพลาดต่อกันมาเป็นทอดๆทำให้ กอนซาโล่ มอนเทียล ว่างจนกระทั่งแอสซิสต์ให้ โดมิงเกซ ยิง (บรูโน่ ตัดบอลแรกไม่อยู่ ดาโลท์ ต้องขยับเข้าไป cover จนทิ้ง มอนเทียล ที่ประกบคู่กันตอนแรก)
แต่ชัดยิ่งกว่าชัดคือลูก 2-1 ที่ตอกย้ำว่า แม็คโทฯ ไม่มีทั้ง anticipation และ positioning หลังเข้าไปแท็คทีมคู่ ดาโลท์ เพื่อจับ เอลังก้า อดีตเพื่อนร่วมทีม
ไม่มีการเช็กสภาพแวดล้อมพื้นที่ระแวกนั้น ยืนติด ดาโลท์ 2 หลาถามหน่อยว่ามันช่วยให้เกิดประโยชน์อะไร
ถ้าเป็นตัวรับคนอื่นๆทีมอื่นๆ นอกจากเช็กพื้นที่ตัวเองแล้วเชื่อว่าสถานการณ์เช่นนี้แค่คุณขยับขึ้นมาบังไลน์ทิศทางของ มอร์แกน กิบบ์ส-ไวท์ ยังไงก็ไม่มีทางได้ยิงโล่งๆแบบนี้
เป็นการโดนยิงแบบไม่ทันตั้งตัวทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น 4 นาทีอุตสาห์ตีเสมอจากลูกโชคที่ แมตต์ เทอร์เนอร์ ผู้รักษาประตู “เจ้าป่า” ถวายพาลมาให้แล้วแท้ๆ
จะว่าไปแล้วแฟน “ผี” คงนึกเสียดายที่ก่อนจะโดนยิงลูกนี้ แมนฯยูฯ บุกถึงหน้าประตูและ เอริคเซ่น ได้ลูกตั้งยิงเหน่งๆแต่ เทอร์เนอร์ แก้ตัวพุ่งเซฟลูกยากๆจนกระทั่งโดนสวนกลับทันที
ล่าสุดผมเหลือบไปเห็นทวิตเตอร์ระบุว่า ETH ยืนยันเสียงหนักแน่นว่าการถอด ไมนู เป็นเรื่องของ “แท็คติกส์” และไม่เสียใจที่ตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นลงไป เขร้!!
ทั้งหมดทั้งมวลผมขอออกตัวล้อฟรีตรงนี้เลย กลัวจะมีคนพูดว่า “ให้เครดิต” ฟอเรสต์ บ้าง
คือให้อ่ะให้อยู่แล้วแต่สไตล์ผมคือจะเน้นเรื่องประเด็นปัญหาเป็นตัวตั้งก่อน ถ้า แม็คโทฯ ยืนถูกตำแหน่งหรือพุ่งสไลด์บล็อกลูกยิงเต็มที่แล้วแต่มันยังเข้าประตู อันนี้คงโทษกันไม่ได้และเราก็คงเปลี่ยนไปถกเรื่องอื่นกันต่อ จริงไหมครับ?
ครับในส่วนรายละเอียดอื่นๆเช่นรูปเกมหรือเรื่องหยุมหยิมผมขอละไว้ในฐานะที่เข้าใจเพราะ ณ เวลานี้ปัญหาใหญ่กว่าคือบอร์ดบริหารยังใจเย็นกับวัฏจักรวนลูปของ ETH อยู่ใช่ไหม?
สถิติมากมายที่ “ปีศาจแดง” เคยถือไว้เทห์ๆตอนนี้ยับเยินเป็นใบไม้ร่วง ล่าสุดสดๆร้อนๆแพ้ที่ ซิตี้ กราว์ด เป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1994 หรือ 29 ปีที่แล้ว ส่วนสถิติที่เหลือตามอ่านได้ข่างล่างครับ เยอะจัด
ในขณะที่ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ราศีจับสุดๆโดยหลังเสียบแทน สตีฟ คูเปอร์ ชนะ 2 แพ้ 1 คือโค่นทั้ง นิวคาสเซิ่ล และล่าสุดกับ ยูไนเต็ด นี่ถ้าไม่มีผู้เล่นโดนใบแดงเกม debut กับ บอร์นมัธ และโดนยิง 90+4 คงยังไม่แพ้ใคร
เป็นการอำลาเกมสุดท้ายประจำปี 2023 ที่โคตรดิ่งสำหรับเหล่าเร้ดอาร์มี่โดยที่ยังไม่รู้เลยว่าต้องทนอยู่กับ ETH ไปอีกนานแค่ไหน…
สถิติ สถิติ สถิติ
แมนฯยูฯ แพ้ 9 นัดจากการลงเล่นแค่ 20 เกมในฤดูกาลนี้ ถือเป็นหนแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1989-90 รวมถึงตัวเลขแพ้ 9 นัดเทียบเท่ากับที่พวกเขาลงเล่นทั้งฤดูกาลที่แล้วเลยทีเดียว
“ปีศาจแดง” แพ้ 21 เกมรวมทุกรายการตลอดปี 2023 โดยมีเพียงปี 1930 (28) และ 1921 (24) เท่านั้นที่แพ้มากกว่าในปฏิทินเดียว
จากการพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ ยูไนเต็ด ยุติสถิติสวยๆชนะรวดในการเจอกับ ฟอเรสต์ ในทุกรายการไว้ที่ 11 เกม
นอกจากนี้ “ผีแดง” ทิ้งท้ายปีปฏิทินด้วยการพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 2011 (แพ้ แบล็คเบิร์น 3-2)
ทิ้งท้ายสถิติที่ยับรัวๆคือ ยูไนเต็ด แพ้ 5 เกมในเดือนธันวาคมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1933
น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ชนะ 2 เกมติดในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม และพูดให้เห็นภาพว่าก่อนหน้า นูโน่ มาห่วยแค่ไหนคือ “เจ้าป่า” ชนะแค่ 1 จาก 14 เกมเท่านั้นเอง
แอนโธนี่ย์ เอลังก้า มีส่วนร่วมกับ 4 ประตูใน 3 เกมในลีกหลังสุด (ยิง 1 แอสซิสต์ 3) และมีส่วนร่วมกับประตูมากกว่าเพื่อนร่วมทีมทุกคนในฤดูกาลนี้ (10 ลูก – ยิง 4 จ่าย 6)
ที่มา: soccersuck
