เอาแต่ถ่วง! แบร์นาโด้ชี้ ‘ปืน’ ไร้ถ้วยต่างจากหงส์

เอาแต่ถ่วง! แบร์นาโด้ชี้ ‘ปืน’ ไร้ถ้วยต่างจากหงส์

แบร์นาโด้ ซิลวา มิดฟิดล์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วิจารณ์ อาร์เซน่อล เน้นใช้แท็คติกถ่วงเวลา ไม่ได้ต้องการเล่นฟุตบอลเพื่อชัยชนะยามเจอกัน ต่างจากอีกคู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล พร้อมชี้สาเหตุอาจเป็นเพราะไม่เคยคว้าแชมป์

พรีเมียร์ ลีก บิ๊กแมทช์วันอาทิตย์ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ เบิกสกอร์ให้ “เรือใบ” นำต้นเกมจากนั้น “ปืนใหญ่” ยิงแซง แต่ก่อนพักครึ่ง เลอันโดร ทรอสซาร์ โดนใบแดงเป็นจุดเปลี่ยน จนนาที 90+8 จอห์น สโตนส์ ทำประตูตีเสมอ

สถิติเปิดเผย แมนฯ ซิตี้ ภายใต้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ครองบอลถึง 77 เปอร์เซนต์ ง้างยิงไป 33 ครั้งมากกว่า อาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า ซึ่งสร้างโอกาสเพียง 5 ครั้ง แต่สุดท้ายจบด้วยสกอร์ 2-2

“วันนี้มีแค่ทีมเดียวที่พยายามลงสนามไปเพื่อเล่นฟุตบอล” แบร์นาโด้ สัมภาษณ์ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ภายหลังทำแต้มหล่นใน พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งแรกของฤดูกาล

“ส่วนอีกทีมต้องการเล่นกับข้อจำกัดเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ตัดสินอนุญาตให้ทำ เกมนี้เรารู้ตั้งแต่จังหวะแรกว่าจะเกิดอะไรขึ้น โรดรี้ บาดเจ็บหลังจากโดนฝั่งอาร์เซน่อล อัดใส่จนคว่ำ 2 ครั้งติดภายใน 10 นาที”

“เราเสียประตูแรก ในจังหวะที่ผู้ตัดสินเรียกกัปตันทีมไปพูดคุย แล้วไม่ยอมรอให้เขากลับไปประจำตำแหน่ง เราเสียประตูที่สอง ในจังหวะที่ อาร์เซน่อล ขัดขวางผู้รักษาประตูของเรา และผู้ตัดสินยอมให้ทำแบบนั้น”

“จากนั้นผู้ตัดสินก็ปล่อยให้มีการถ่วงเวลาหลายครั้ง สิ่งที่ทำให้ผมหงุดหงิดที่สุด คือก่อนเริ่มซีซั่น เอฟเอ บอกว่าพวกเขาจะควบคุมสถานการณ์แบบนี้ แต่สุดท้ายกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“เมื่อดูเหตุการณ์ช่วงท้ายเกม มันเป็นผลการแข่งขันที่ดีที่สุดที่เราสามารถเก็บได้ เราไม่มีความสุขเพราะเราต้องการสามแต้ม แต่โดยส่วนตัว ผมดีใจกับวิธีการเล่นของทีม เราลงสนามไปเพื่อพยายามชนะทุกนัด”

แข้งโปรตุกีสวัย 30 ปี ถูกถามเพิ่มเติม ขอให้เปรียบเทียบกับการเจออีกหนึ่งคู่แข่งสำคัญในช่วงหลายปีหลังอย่าง ลิเวอร์พูล:

“ลิเวอร์พูล เผชิญหน้าเราเพื่อพยายามคว้าชัยชนะเสมอ จากมุมมองนี้ การเจอ อาร์เซน่อล จึงไม่เหมือนเกมที่เราเจอ ลิเวอร์พูล ดังนั้นใช่เลย เราคงเป็นคู่แข่งกันในแบบที่ต่างออกไป”

“บางทีอาจเป็นเพราะ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ พรีเมียร์ ลีก ไปแล้ว แต่ อาร์เซน่อล ไม่เคยได้ หรือไม่ก็เพราะ ลิเวอร์พูล ได้ แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว ส่วน อาร์เซน่อล ยังไม่เคย”

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด