ซิวแชมป์กลุ่ม! ทีมชาติไทย U17 แซงเฮ อินเดีย 3-2 ลิ่วรอบสุดท้ายเอเชีย
“ศิวกร พลสวรรค์” ซัดเบิ้ล ก่อนที่ “ชัยวัฒน์ เงินมา” กดประตูชัยแซงเฮ อินเดีย สุดระทึก 3-2 คว้าแชมป์กลุ่มดี ตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชีย
ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดสุดท้าย ที่สนามชลบุรี สเตเดียม วันที่ 27 ตุลาคม 2567 ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ อินเดีย
ผลงาน 2 นัดที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ชนะ เติร์กเมนิสถาน 2-0 และถล่ม บรูไน 19-0 ส่วน อินเดีย ชนะ บรูไน 13-0 และชนะ เติร์กเมนิสถาน 1-0 ทำให้มี 6 คะแนนเท่ากัน แต่ ทีมชาติไทย ประตูได้เสียดีกว่า จึงนำจ่าฝูง และทำให้เกมนี้ต้องการแค่เสมอ จะคว้าแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายทันที
เกมนี้ “เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอน จัดทัพ 11 ผู้เล่นตัวจริง ประกอบด้วย ศุภกร พูลผล (GK), ภูริพันธ์ โพธิ์ทอง, ภูริณัฐ พูลกำลัง, ศุภวิชญ์ ผสม, ดนุพล บุบผา (C), ชัยวัฒน์ เงินมา, ปรเมศ ละอองดี, สรกฤช แก้วศรี, ศิวกร พลสวรรค์, พีรดา หล้าสวัสดิ์, คณพศ อินทะสิงห์
ครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกใส่กันสูสี ผ่านไป 30 นาที ยังไม่มีทีมใดทำประตูกันได้
จนมาถึงนาทีที่ 33 ทีมชาติไทย พลาดเสียจุดโทษจังหวะทำฟาวล์ของ ภูริณัฐ พูลกำลัง และเป็น งามกูฮู มาเต้ สังหารเข้าไปในนาทีที่ 34 ให้ อินเดีย นำก่อน 1-0
แต่เพียงแค่ไม่ถึง 2 นาที กองเชียร์ไทยได้เฮกันลั่น เมื่อ ศิวกร พลสรรค์ ชาร์จจ่อ ๆ เข้าไปให้ ทีมชาติไทย ตีเสมออย่างรวดเร็ว 1-1
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 42 วิชาล ยาดาฟ ยิงสุดสวยให้ อินเดีย นำ ไทย อีกครั้ง 2-1 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาครึ่งหลัง ทีมชาติไทย พยายามเปิดเกมบุกใส่ จนมาถึงนาทีที่ 60 ศิวกร พลสรรค์ คนเดิมมาทำประตูให้ ทีมชาติไทย ตีเสมอเป็น 2-2
หลังจากนั้น ทั้งสองทีมผลัดกันรุกและรับอย่างสนุกสูสี จนมาถึงนาทีที่ 86 ชัยวัฒน์ เงินมา ยิงประตูให้ ทีมชาติไทย แซงนำครั้งแรก 3-2
ช่วงเวลาที่เหลือ อินเดีย พยายามโหมบุกหนัก แต่ทำประตูตีเสมอไม่ได้ จบเกม ทีมชาติไทย เฉือนชนะ อินเดีย 3-2
ส่งผลให้ ทีมชาติไทย มี 9 คะแนนเต็ม คว้าแชมป์กลุ่มดี ผ่านเข้าไปเล่นศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ซาอุดิอาระเบีย ระหว่างวันที่ 3-20 เมษายน 2025 ซึ่งจะคัด 8 ทีมตัวแทนเอเชีย ไปฟุตบอลโลก U17 ที่กาตาร์
ส่วน อินเดีย มี 6 คะแนน จบอันดับ 2 ของกลุ่มดี ต้องไปลุ้นเป็น 5 ทีมผลงานดีสุดจาก 10 กลุ่ม เพื่อเข้ารอบสุดท้ายต่อไป
ที่มา: soccersuck
