ผ่าแผนเด็ด “ลา เรอัล” ดับบาร์เซโลน่า คว้าชัยในบ้านรอบ 8 ปี

#SSxLaLiga | ก่อนที่เรอัล โซเซียดัด จะลงสนามพบกับบาร์เซโลน่าในเกมล่าสุด พวกเขามีปัญหาเรื่องผลงานในบ้าน สวนทางกับบาร์เซโลน่าที่มีสไตล์เกมรุกที่ดุดัน แพ้เพียง 1 เกมในลีก และยิงประตูได้ทุกเกม

แต่หลังสิ้นเสียงนกหวีด อิมานอล อัลกูอาซิล นายใหญ่ของโซเซียดัด พาทีมเก็บชัยเกมเหย้าเหนือบาร์ซ่าเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ชนิดที่ไม่เสียประตู และมีคะแนนตามหลังพื้นที่ฟุตบอลยุโรปเพียง 2 แต้มเท่านั้น

ศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน แมตช์เดย์ 13 คู่สุดท้ายของเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรอัล โซเซียดัด เปิดถิ่นเรอาเล่ อารีน่า เอาชนะบาร์เซโลน่า 1 – 0 เชรัลโด้ เบ็คเกอร์ ยิงประตูชัยให้เจ้าบ้านเก็บ 3 คะแนนสำคัญ

นี่คือชัยชนะของลา เรอัล ที่มีต่อบาร์เซโลน่าในบ้านตัวเองเป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2016 อีกทั้งยังเป็นการเก็บชัยในบ้านเกมที่ 2 จาก 7 เกมเหย้าในลาลีกา และเป็นเกมที่ 4 จาก 6 เกมหลังสุดในลีก

ทีมของกุนซืออิมานอล อัลกูอาซิล ได้ใช้กลยุทธ์เพรสซิ่งสูงในแดนของคู่แข่ง ทำให้ทีมเยือนไม่สามารถขึ้นเกมบุกจากแดนหลังได้อย่างสะดวก ส่งผลให้บรรดาผู้เล่นในแนวรุกของบาร์ซ่ามีโอกาสครองบอลน้อยลง

เกมตรงกลางสนามของโซเซียดัดสามารถหยุดเกมรุกบาร์ซ่าอย่างได้ผล โดยเฉพาะมาร์ติน ซูบีเมนดี้ กองกลางตัวรับที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม และทาเคฟุสะ คุโบะ ที่ช่วยยับยั้งการผ่านบอลในแดนของคู่แข่ง

จังหวะประตูขึ้นนำของโซเซียดัด มาจากจังหวะที่อินญากี้ เปนญ่า นายทวารของบาร์ซ่า เปิดบอลยาวแต่โดนโต้กลับ ลูก้า ซูซิซ ขึ้นโหม่งส่งบอลให้เชรัลโด้ เบ็คเกอร์ ใช้ความเร็ววิ่งแซงแนวรับคู่แข่ง ก่อนซัดตุงตาข่าย

2 สถิติด้านแย่ของบาร์ซ่า หลังแพ้ลา เรอัล

ในเกมกับเรอัล โซเซียดัด บาร์เซโลน่ามีโอกาสยิง 11 ครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกมบุกไปเสมอมาลาก้า 0 – 0 เมื่อเดือนกันยายน 2014 ที่มีสถิติการยิงเข้ากรอบเป็นศูนย์

นอกจากนี้ ความปราชัยของอาซุลกราน่าในเกมล่าสุด ยังทำให้เกิดสถิติด้านแย่อีก 1 อย่าง นั่นคือเกมแรกจากทั้งหมด 17 เกมของฤดูกาลนี้ (นับรวมทั้งลาลีกา และแชมเปี้ยนส์ ลีก) ที่ไม่สามารถเจาะตาข่ายคู่แข่ง

เรอัล โซเซียดัด แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ยอดเยี่ยมในการรับมือกับบาร์เซโลน่า จนหยุดสถิติทีมของฮันซี่ ฟลิค ที่ยิงประตูทุกเกมลงได้สำเร็จ และอาจเป็นการสร้างพิมพ์เขียวให้กับคู่แข่งเพื่อไว้ใช้รับมือก็เป็นได้

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด