ความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดของ “แอตฯ มาดริด และ ลาส พัลมาส”
#SSxLaLiga | แอตเลติโก้ มาดริด และลาส พัลมาส 2 สโมสรฟุตบอลของสเปนที่มีชื่อเสียงและความสำเร็จที่แตกต่างกัน แต่มีเรื่องราวในอดีตที่มีความเกี่ยวพันกัน ซึ่งหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน นัดที่ 25 ของฤดูกาล แอตเลติโก้ มาดริด จะเปิดรังเอสตาดิโอ ซิบิตาส เมโทรโปลิตาโน่ รับการมาเยือนของลาส พัลมาส แข่งขันในวันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 20.00 น.
การพบกันนัดแรกของซีซั่น ที่เอสตาดิโอ แกรน คานาเรีย เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ลาส พัลมาส เอาชนะไป 2 – 1 สร้างประวัติศาสตร์เก็บชัยเหนือแอตฯ มาดริดได้เป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1987
ในเกมล่าสุด ทีมของดิเอโก้ ซิเมโอเน่ บุกไปแพ้เซบีย่า 0 – 1 ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์ริบหรี่เต็มที ขณะที่ทีมของการ์เซีย ปิเมียนต้า เปิดบ้านเอาชนะบาเลนเซีย 2 – 0 ด้วยสถิติครองบอลถึง 73 เปอร์เซ็นต์
ที่ตั้งระหว่างสโมสรแอตฯ มาดริด กับลาส พัลมาส ห่างกันประมาณ 1,700 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 สโมสร กลับมีภูมิหลังด้านประวัติศาสตร์ที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างไม่น่าเชื่ออยู่บางประการ
ความเกี่ยวพันซ่อนอยู่บนโลโก้
ลาส พัลมาส ก่อตั้งเมื่อปี 1949 มาจากการรวมกันของ 5 สโมสรท้องถิ่นในหมู่เกาะคานารี่ คือ มาริโน่ ฟุตบอล คลับ, เรอัล คลับ วิกตอเรีย, เดปอร์ติโบ แกรน คานาเรีย, อาเรนาส คลับ และคลับ แอตเลติโก้
ซึ่งตราสัญลักษณ์ของลาส พัลมาส ในปัจจุบัน ก็มีโลโก้ของทั้ง 5 สโมสรดังกล่าวปรากฏอยู่ด้วย ส่วนด้านในของตราสโมสร ก็มีสุนัขและต้นปาล์ม ซึ่งคล้ายกับหมีและต้นสตรอเบอรี่ที่อยู่ในโลโก้ของแอตฯ มาดริด
ชุดแข่งขันของลาส พัลมาสในยุคแรกๆ ใช้สีน้ำเงิน-ดำสำหรับเสื้อ และสีดำสำหรับกางเกง ต่อมาได้เปลี่ยนสีของเสื้อเป็นสีแดง-ขาว และสีของกางเกงเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งคล้ายกับสีชุดแข่งขันของแอตฯ มาดริดเช่นกัน
สำหรับในปัจจุบัน ชุดแข่งขันทีมเหย้าของลาส พัลมาส ใช้เสื้อสีเหลือง และกางเกงสีน้ำเงิน มีที่มาจากสีของธงประจำหมู่เกาะคานารี่ อีกทั้งได้นำมาใช้กับตราสโมสรที่ประกอบด้วยผืนผ้าสีเหลือง และโล่สีน้ำเงิน
[color=red]ความสัมพันธ์ระห
ว่าง 2 สโมสร[/color]
ในช่วงท้ายของทศวรรษที่ 1940s แอตเลติโก้ มาดริด คือจุดหมายปลายทางหลักสำหรับนักเตะหลายคนที่มาจากหมู่เกาะคานารี่ ทำให้พวกเขาได้รับฉายาว่า “แอตเลติโก้ คานาริโอ” (Atlético Canario)
โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัยติดต่อกันในซีซั่น 1949/50 และ 1950/51 มีนักเตะชาวคานาเรียอย่างอัลฟอนโซ่ ซิลบา, ราฟาเอล กอนซาเลซ, อันโตนิโอ ดูรัน, โรเซนโด้ เอร์นานเดซ และมิเกล เอล พัลเมโร่
ช่วงกลางยุคทศวรรษที่ 1990s ฆวน การ์ลอส บาเยรอน เคยค้าแข้งให้กับลาส พัลมาส จากนั้นย้ายไปอยู่กับแอตฯ มาดริด ในยุคที่ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้น ก่อนจะกลายเป็นตำนานของเดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า
ต่อมาในปี 2010 บิคตอร์ มาชิน เปเรซ หรือที่รู้จักกันในชื่อ บิโตโล่ เริ่มต้นอาชีพนักเตะกับทีมชุดใหญ่ของลาส พัลมาส สโมสรในบ้านเกิด อีก 3 ปีต่อมา ย้ายไปอยู่กับเซบีย่า พาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก 3 สมัยซ้อน
กระทั่งในปี 2017 บิโตโล่ย้ายไปร่วมทัพแอตเลติโก้ ได้ลงสนามทั้งหมด 101 นัด รวมทุกรายการ ตลอด 4 ฤดูกาลแรก แต่ด้วยอาการบาดเจ๊บ ทำให้เขามีโอกาสอำลาสโมสรเมื่อสัญญาสิ้นสุดลงหลังจบฤดูกาลนี้
แอตเลติโก้ มาดริดต้องการ 3 คะแนนในเกมนี้ เพื่อรักษาอันดับท็อปโฟร์อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ชัยชนะของลาส พัลมาส จะเป็นการขยับเข้าใกล้พื้นที่ฟุตบอลยุโรป ที่ห่างหายไปนานกว่า 4 ทศวรรษ
ที่มา: soccersuck
