จู๊ด เบลลิงแฮม : สตาร์ใหม่เรอัล มาดริด กับ 5 เรื่องที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
#SSxLaLiga | จู๊ด เบลลิงแฮม เป็น 1 ในมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่กำลังถูกจับตามองในเวลานี้ ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นสุด ๆ ในฤดูกาลที่เพิ่งจบไป แม้ไม่อาจช่วยให้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้สำเร็จก็ตาม
ลิเวอร์พูล คือหนึ่งในทีมที่ตกเป็นข่าวมานานว่าจะล่าตัวเบลลิงแฮม เพราะตัวเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเตะทีมชาติอังกฤษที่เล่นให้ “หงส์แดง” อีกทั้งกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังสร้างทีมรุ่นใหม่ขึ้นมา
แต่เหตุการณ์ที่เรอัล มาดริด เอาชนะลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2022 คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เจ้าหนูจู๊ด ตัดสินใจเลือกที่จะย้ายมาค้าแข้งที่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว แทนที่จะเป็นแอนฟิลด์
และในที่สุด เรอัล มาดริด ก็ปิดดีลคว้าตัวจู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ จากดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าฉีกสัญญา 103 ล้านยูโร บวกกับเงื่อนไขเพิ่มเติมอีก 34 ล้านยูโร รวมเป็น 137 ล้านยูโร
อดีตมิดฟิลด์ “เสือเหลือง” ที่กำลังจะมีอายุครบ 20 ปี ในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ เป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดอันดับที่ 2 ของ “ราชันชุดขาว” รองจากเอเด็น อาซาร์ ที่ย้ายมาจากเชลซี 115 ล้านยูโร เมื่อปี 2019
ตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมากับดอร์ทมุนด์ เบลลิงแฮมได้สร้างความฮือฮาด้วยฝีเท้าที่เก่งฉกาจเกินวัย ฟอร์มการเล่นพัฒนาแบบก้าวกระโดด จนเข้าตายักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรป และเป็นเรอัล มาดริด ที่ได้ตัวไป
สำหรับฤดูกาล 2023/24 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เบลลิงแฮมมีโอกาสที่จะลงเล่นร่วมกับกองกลางระดับตำนานของทีมอย่างลูก้า โมดริช ในวัย 37 ปี รวมถึงโทนี่ โครส ในวัย 33 ปี ที่กำลังเข้าสู่บั้นปลายในอาชีพนักเตะทั้งคู่
อย่างไรก็ตาม ดีลของเบลลิงแฮม คือการลงทุนเพื่ออนาคตของมาดริด เพราะมีดาวรุ่งอย่างเอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า (20 ปี) และออเรเลียง ชูอาเมนี่ (23 ปี) ที่จะเข้ามาผลัดเปลี่ยนแผงมิดฟิลด์จากความเก๋าสู่ความสดใหม่
แผนการสร้างทีมรุ่นต่อไปของคาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือวัย 64 ปี ได้วางตัวเบลลิงแฮมสำหรับการขับเคลื่อนเกมแดนกลางของเรอัล มาดริด ในอีกหลายปีนับจากนี้ ยังมีอีก 5 เรื่องราวของเขา ที่คุณอาจยังไม่รู้มาก่อน
เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกา
ฤดูกาล 2022/23 ที่เพิ่งจบไป เบลลิ่งแฮมยิงไป 8 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จาก 31 นัดในบุนเดสลีกา ทำให้เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำซีซั่นไปครอง พร้อมกับสถิติส่วนตัวอื่น ๆ ทั้งเป็นนักเตะที่วิ่งเยอะที่สุดของดอร์ทมุนด์ ด้วยระยะทาง 322 กิโลเมตร และชนะการดวลกับคู่แข่ง 482 ครั้ง มากที่สุดในบรรดาผู้เล่นทั้งหมดในลีกเยอรมัน
เบอร์มิงแฮม รีไทร์หมายเลขเสื้อของเขา
เบลลิ่งแฮม เป็นแฟนบอลของเบอร์มิงแฮม ซิตี้ มาตั้งแต่เด็ก และได้เข้าสู่อคาเดมี่ของ “เดอะ บูลส์” ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เขาเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ได้ประเดิมลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของสโมสร และเมื่อเขาย้ายไปร่วมทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในปี 2020 เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ประกาศรีไทร์เสื้อหมายเลข 22 เพื่อเป็นเกียรติให้กับเขา
คุณพ่อของเขาเป็นนักเตะนอกลีกอาชีพ
ความรักในกีฬาฟุตบอลของเบลลิ่งแฮม ถูกถ่ายทอดมาจากครอบครัว มาร์ค คุณพ่อของเขา เคยเป็นอดีตนักฟุตบอลระดับนอกลีกอาชีพ เล่นในตำแหน่งกองหน้า ยิงได้มากกว่า 700 ประตู และโจ๊บ น้องชายของจู๊ด วัย 17 ปี ลงเล่นกับเบอร์มิงแฮม ซิตี้ เป็นสโมสรแรกในฐานะนักเตะอาชีพเหมือนกับพี่ชาย ปัจจุบันย้ายไปอยู่กับซันเดอร์แลนด์
แข้งผู้ดีอายุน้อยสุดที่ได้ลงเล่นยูซีแอล
หนึ่งในสถิติของเบลลิ่งแฮมที่ได้มีการบันทึกไว้ คือเป็นนักเตะชาวอังกฤษที่อายุน้อยที่สุด ที่ได้ลงเล่นในรายการใหญ่อย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยวัย 17 ปี 113 วัน โดยได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ในเกมที่พบกับลาซิโอ เมื่อเดือนตุลาคม 2020 เขาลงเล่นรายการนี้กับดอร์ทมุนด์ 3 ฤดูกาล รวมทั้งสิ้น 23 นัด ทำได้ 6 ประตู 5 แอสซิสต์
มีเจอร์ราร์ด และรูนี่ย์ เป็นไอดอล
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ คือสโมสรแรกที่เบลลิ่งแฮมเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ ในปี 2019 เขามีอดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษอย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ด และเวย์น รูนี่ย์ เป็นนักเตะในดวงใจ ซึ่งเขาได้ออกมาชื่นชมตำนานแข้งทั้ง 2 คนเป็นอย่างมาก จนอยากจะขอแลกเสื้อกันเลยทีเดียว ปัจจุบันเจ้าตัวติดทีมสิงโตคำรามชุดใหญ่ไปแล้ว 24 นัด
การเซ็นสัญญากับเบลลิงแฮม ทำให้คาร์โล อันเชล็อตติ มีตัวเลือกนักเตะดาวรุ่งในแผงมิดฟิลด์ให้ใช้งานเพิ่มอีก 1 คน นอกจากคามาวิงก้า, ชูอาเมนี่ และยังมีบราฮิม ดิอาซ ที่กลับมาจากยืมตัวกับเอซี มิลาน
แม้ว่าจู๊ด เบลลิงแฮม เลือกที่จะสวมเสื้อหมายเลข 5 เช่นเดียวกับซีเนอดีน ซีดาน ตำนานแข้งชาวฝรั่งเศส แต่เจ้าหนูคนนี้ ก็จะเป็นตัวของตัวเองต่อไป และช่วยเรอัล มาดริด ครองความยิ่งใหญ่ให้นานที่สุด
ที่มา: soccersuck
