ตราไก่รอเช็ค ‘อูปา,ราบิโอต์’ ตัดเชือกโมร็อกโก…ปรีวิวฟุตบอลโลก 2022
วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2565
ฝรั่งเศส – โมร็อกโก (02:00 น.)
ฝรั่งเศส ยังต้องรอเช็คอาการของกองหลังอย่าง ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ และมิดฟิลด์อย่าง อาเดรียง ราบิโอต์ หลังจากทั้งคู่ทำได้แค่ซ้อมเบาๆเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
อูปาเมกาโน่ มีอาการป่วยเจ็บคอ หากเขาฟิตไม่เต็มร้อยก็อาจจะต้องหลีกทางให้ อิบราฮิมา โคนาเต้ ลงไปเล่นแทน ขณะที่ในรายของ ลูคัส เอร์นานเดซ เจ็บเข่าถอนตัวไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม
โมร็อกโก มีปัญหาที่ วาลิด เชดดิร่า กองหน้าที่ติดโทษแบนจากเกมที่เอาชนะโปรตุเกสผ่านเข้ารอบมาได้
กุนซือ วาลิด เรกรากุย ยอมรับว่าเขาจะรอเช็คความฟิตผู้เล่นหลายคนจนวินาทีสุดท้าย โดยยังไม่ตัดโอกาสที่จะสามารถใช้งานลูกทีมได้ทุกคนในเกมนี้
นาอิฟ อาเกิร์ด มีปัญหาเจ็บต้นขาและไม่ได้ลงเล่นในเกมกับโปรตุเกส เป็นคนที่น่าเป็นห่วงที่สุด ขณะที่กองหลังอีกคนอย่าง โรแม็ง ซาอิสส์ ก็มีอาการบาดเจ็บแบบเดียวกันและถูกเปลี่ยนตัวในเกมนั้น
ฟูลแบ็คอย่าง นุสแซร์ มาซราอุย ป่วยและมีอาการเจ็บสะโพกทำให้ลงเล่นเกมที่แล้วไม่ได้ แต่วันนี้ดูเหมือนเขาจะพร้อมลุย
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– เจอกันมา 2 ครั้งก่อนหน้านี้ในเกมอุ่นเครื่อง ฝรั่งเศสชนะ 1-0 ในปี 1999 และเสมอ 2-2 ในปี 2007 นี่จะเป็นการเจอกันในเกมทางกันหนแรก
– สามครั้งแรกที่ฝรั่งเศสเข้าถึงรอบรองชนะเลิศพวกเขาแพ้หมดในปี 1958, 1982 และ 1986 แต่สามครั้งหลังในรอบนี้ชนะรวดในปี 1998, 2006 และ 2018
– ฝรั่งเศสยังไม่สามารถรักษาคลีนชีตได้ในทัวร์นาเมนท์นี้ และพวกเขาเสียประตูถึง 10 จาก 11 นัดหลังสุดในทุกรายการ
– โมร็อกโกเป็นทีมแรกจากทวีปแอฟริกาที่เข้าถึงรอบตัดเชือกฟุตบอลโลก และเป็นชาติที่ 25 ที่ผ่านมาถึงรอบนี้ได้ ซึ่งห่างจากทีมสุดท้ายผ่านมาถึงรอบนี้อย่างสเปน(ทำได้ในปี 2010 และเป็นทีมที่ 24) ถึง 12 ปี
– โมร็อกโกเก็บคลีนชีตได้ 4 นัดในทัวร์นาเมนท์นี้ สองชาติสุดท้ายที่เก็บคลีนชีตได้ 5 นัดในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกก้าวไปเป็นแชมป์ได้ทั้งคู่คือ สเปนในปี 2010 และ อิตาลีในปี 2006
ที่มา: soccersuck