ทีนี้ก็ว้าวุ่นเลย! ‘มาโน’ ทำไม่ได้ ไทย ดวลเป้าพ่าย อิรัก ชวดแชมป์คิงส์คัพ

ไทย สู้ยิบตา โดน อิรัก นำ 2 ครั้ง แต่ได้ นิโคลัส กับ บดินทร์ ช่วยกันโหม่งไล่ตีเสมอ 2-2 ก่อนดวลจุดโทษแพ้ไป 4-5 ชวดแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 ไปอย่างน่าเสียดาย

ฟุตบอล คิงส์ คัพ ครั้งที่ 49 นัดชิงชนะเลิศ

วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2566

สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี

ทีมชาติไทย 2-2 อิรัก

ผู้ทำประตู : 0-1 อายเมน กาห์ดบาน น.6, 1-1 นิโคลัส มิคเกลสัน น.37, 1-2 อัมยาด อัตวาน น.65, 2-2 บดินทร์ ผาลา น.82

ก่อนเกมได้มีฝนตกอย่างหนัก จนมีน้ำเจิงนองสนาม ทำให้ต้องเลื่อนเวลาคิกออฟจากเดิม 20.30 น. ออกไปเป็น 21.00 น.

ไทย คว้าแชมป์มาแล้ว 15 สมัย จากการเข้าชิง 24 ครั้ง แต่แชมป์ครั้งสุดท้ายที่ทำได้ต้องย้อนไปในศึกครั้งที่ 45 ปี 2560 เอาชนะจุดโทษ เบลารุส 5-4 หลังเสมอในเวลา 0-0 ส่วน อิรัก ยังไม่เคยคว้าแชมป์

คู่นี้เคยเจอกันในนัดชิงครั้งที่ 38 เมื่อปี 2550 โดยมี “อ.หรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน คุมทีมชนะ อิรัก ชุดบีผสมกับทีมสโมสร อาร์บิล เอฟซี ไป 1-0 จากประตูของ ณรงค์ชัย วชิรบาล

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 3 ไทย ได้โอกาสยิงครั้งแรกจาก วีระเทพ ป้อมพันธุ์ แต่บอลข้ามคานออกไป

แต่นาทีที่ 6 โอกาสครั้งแรกของ อิรัก จากบอลทุ่มไกลมาหน้าประตู นักเตะไทยเคลียร์กันไม่ดีในเขตโทษ บอลกระดอนไปเข้าทาง อายเมน กาห์ดบาน แปหนีมือ ฉัตรชัย บุตรพรม เข้าไปตุงตาข่ายให้ อิรัก ออกนำเร็ว 1-0

หลังเสียประตู ไทย พยายามครองบอลทำเกมบุก แต่ยังเจาะเข้ากรอบเขตโทษของ อิรัก ไม่ได้ นาทีที่ 15 บดินทร์ ผาลา ลองยิงไกล แต่บอลก็ข้ามคานไปแบบไม่มีลุ้น

รูปเกมยังเป็น ไทย ที่ครองเกมเหนือกว่าชัดเจน นาทีที่ 35 ไทย เกือบได้ประตูตีเสมอจากลูกเตะมุม ธีราทร บุญมาทัน เปิดมาเสาแรกให้ เอเลียส ดอเลาะ ขึ้นโหม่งไปติดผู้เล่นอิรัก ก่อนผู้รักษาประตูอิรักปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด

จนกระทั่งนาทีที่ 37 กองเชียร์ไทยได้เฮกันลั่นสนาม ธีราทร บุญมาทัน เปิดจากริมเส้นฝั่งซ้ายมาถึง นิโคลัส มิคเกลสัน ทะยานเข้ามาโหม่งบอลตุงตาข่ายอย่างสุดสวย ตีเสมอเป็น 1-1

ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรก ทั้งสองทีมทำประตูกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้สกอร์ยังเสมอกัน 1-1

กลับมาสู้กันต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 48 อิรัก ได้ลุ้นจากฟรีคิกเปิดมาหน้าประตู อายเมน กาห์ดบาน ขึ้นโหม่งบอลย้อนจะเข้าประตู แต่ ฉัตรชัย บุตรพรม ปัดไว้ได้หวุดหวิด ก่อนที่ผู้เล่นอิรักตามมาเอาบอลแต่ล้ำหน้า

อิรัก เริ่มครองบอลมากกว่า นาทีที่ 60 จากฟรีคิกเปิดมาหน้าประตู อัมยาด อัตวาน เก็บตกยิงเฉียดเสาออกหลังไป

นาทีที่ 65 อิรัก บุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา อิบราฮิม คามิล บาเยส เปิดเข้ากลางมาถึง อัมยาด อัตวาน แปเข้าไปตุงตาข่ายให้ อิรัก กลับมานำอีกครั้ง 2-1

นาทีที่ 70 มาโน โพลกิ้ง แก้เกมเปลี่ยนตัวคนแรก ส่ง ปรเมศย์ อาจวิไล ลงมาแทน เอเลียส ดอเลาะ

นาทีที่ 76 มาโน โพลกิ้ง เปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่ง เนติพงษ์ เสลานนท์ ลงมาแทน นิโคลัส มิคเกลสัน

นาทีที่ 77 ไทย มาได้จุดโทษจังหวะที่ธีรศิลป์ แดงดา เตะไปโดนแขน โอซามา ราชิด และเป็น ธีรศิลป์ แดงดา รับหน้าที่สังหาร แต่ ฟาฮัด ราฮีม พุ่งถูกทางเซฟไว้ได้ พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 80

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 82 กองเชียร์ไทยได้เฮกันลั่น จากการลุยไปเปิดบอลของ สุภโชค สารชาติ ให้ บดินทร์ ผาลา โหม่งกดลงพื้นตุงตาข่าย ตีเสมอเป็น 2-2

นาทีที่ 88 ไทย เปลี่ยน 3 คนรวด ส่ง ฐืติพันธ์ พ่วงจันทร์, ปกเกล้า อนันต์ และ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ลงมาแทน บดินทร์, สารัช และ ธีรศิลป์

ช่วงเวลาที่เหลือ ทำประตูกันเพิ่มไม่ได้ จบเกมเสมอกันไป 2-2 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ

ผลปรากฏว่า อิรัก ยิงแม่นกว่า ชนะไป 5-4 ทำให้ อิรัก คว้าแชมป์คิงส์คัพไปครองเป็นสมัยแรก

คนแรก : กฤษดา กาแมน ยิงเข้า, อิรัก ยิงเข้า

คนที่สอง : ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยิงเข้า, อิรัก ยิงเข้า

คนที่สาม : ปกเกล้า อนันต์ ยิงเข้า, อิรัก ยิงเข้า

คนที่สี่ :

ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ยิงไม่เข้า

, อิรัก เข้า

คนที่ห้า : ธีราทร บุญมาทัน ยิงเข้า, อิรัก ยิงเข้า

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง

ทีมชาติไทย : ฉัตรชัย บุตรพรม (GK), พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, เอเลียส ดอเลาะ, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, นิโคลัส มิคเกลสัน, ธีราทร บุญมาทัน (C), สารัช อยู่เย็น, สุภโชค สารชาติ, บดินทร์ ผาลา, ธีรศิลป์ แดงดา

อิรัก : ฟาฮัด ราฮีม (GK), เรบิน ซูลาก้า, อาห์เมด มาห์มูด, ฟรานส์ ปูโตรส, ฮุสเซียน ฮุสเซียน, บาห์ซาร์ บอนยัน, เมอร์ชาส ซาลีห์, อัมยาด อัตวาน, อาเมียร์ อาบูด, อายเมน กาห์ดบาน, อามิน อัลฮามาวี

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู: