ทีมชาติไทย…อย่าเป็นได้แค่ที่ 1 ในอาเซียน
ปิดฉากด้วยการชูถ้วยแชมป์อาเซียนอีกสมัยของทัพ “ช้างศึก” แบบมีสไตล์ ด้วยขุมพลังที่ไม่เต็มคาราเบลด้วยซ้ำ
รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ผมเป็นหนึ่งในแฟนบอลร่วม 2 หมื่นคนที่มาให้กำลังใจ ทีมชาติไทย ในสนามกีฬา ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต หลังจากไม่ได้อยู่ในบรรยากาศกองเชียร์มานาน
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมพลพรรค “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทัพของโค้ช มาโน โพลกิ้ง แม้จะขาดตัวหลักไป 5-6 คน แต่ก็ยังโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ ไม่แพ้ใครตลอดทัวร์นาเมนท์
โดยเฉพาะเกมนัดชิงทั้งเยือนและเหย้า นักเตะไทยแสดงให้เห็นว่าเหนือกว่า เวียดนาม ชัดเจน ทั้งการต่อบอลทำชิ่งและทีมเวิร์ค รวมถึงความมุ่งมั่นทุ่มเท และควบคุมอารมณ์แบบมืออาชีพ
ประตูชัยของ ธีราทร ต้องชมจังหวะเข้าทำด้วยการถ่ายบอลกันเป็นทอด ๆ ก่อน “กัปตันอุ้ม” จะตะบันเต็มข้อตุงตาข่าย เหมาะสมกับตำแหน่ง MVP ประจำศึกครั้งนี้ด้วยประการทั้งปวง
ที่ผิดหวังคือไม่ได้เห็นเกมมันส์อย่างที่คิด เพราะ เวียดนาม ไม่กล้าได้กล้าวัดเหมือนที่ อ.ปาร์ค ให้สัมภาษณ์ แต่กลับเน้นการครอสบอล โยนมากเกินไป แต่ไร้ความแม่นยำ ทำให้เกมโอเวอร์ตั้งแต่ครึ่งแรก
ดังนั้น ทีมชาติไทย จึงไม่เจอความยากลำบากอะไรมากนักกับแชมป์สมัยที่ 7 และจ้าวอาเซียน 2 สมัยซ้อน
ตอกย้ำให้เห็นอย่างคมชัดยิ่งกว่า 4DX ว่า ทีมชาติไทย คือ “นัมเบอร์วัน” ตัวจริงในย่านนี้
อาจจะมีบางช่วงบางอายุที่เราเพลี่ยงพล้ำไปบ้าง แต่ถ้าลองเอาจริงเอาจังซะอย่าง ผลลัพธ์มันก็ออกมาอย่างที่เห็น
ด้วยศักยภาพของนักเตะไทย ความจริงเราก้าวข้ามอาเซียนมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ยังต่อยอดไปในระดับสูงกว่านี้ไม่สำเร็จ
นี่คือสิ่งที่ สมาคมลูกหนัง โดยเฉพาะผู้นำที่ต้องเลิกอาย และไปคิดหาวิธีว่า ต้องทำอย่างไร ทีมชาติไทย จะไม่ใช่เป็นได้แค่ที่ 1 ในอาเซียน
ที่มา: soccersuck