ผีชั้นไม่ถึง UCL ปีหน้าว่ากันใหม่

ผีชั้นไม่ถึง UCL ปีหน้าว่ากันใหม่

สิ่งที่ผมเห็นจาก แมนฯยูไนเต็ด ในเกมแพ้ บาเยิร์น มิวนิค คาโอลด์แทรฟฟอร์ดคือการแสดงออกว่าอยากเข้ารอบอยากชนะเพียงอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ

ตัวพร้อมใจพร้อมแต่คุณขับฟอร์จูนเนอร์เร่งเครื่องทำรอบแทบตายก็แซงแลมโบกินี่ไม่ได้อยู่ดี

สิ่งที่ผมพยายามจะสื่อคือ “พี่เสือ” วันนี้เล่นไม่ได้ดีเด่อะไรถึงขนาดต้องเอาไปเปรียบกับ “แลมโบฯ” แต่มาไล่ชี้นิ้วระดับนักเตะทีละตัว ยูไนเต็ด เป็นรองแทบจะทุกตำแหน่ง

เมื่อเอามาผนวกกับบอลที่ไม่มีระบบอยู่แล้ว ให้เตะอีก 2 ชม. เชื่อว่ายิงไม่ผ่านมือ นอยเออร์ อยู่เช่นเดิม

ในขณะที่แนวรับ “ปีศาจแดง” วันนี้ผมมองว่าเล่นไม่ได้ขี้เหร่แม้อาจโดนความเร็วของผํ้เล่น บาเยิร์น สวนกลับหัวทิ่มกันไปบ้างแต่โดยรวมยังเอาอยู่และบีบให้ ทีมเยือนแทบไม่มีโอกาสจะแจ้งใดๆ (ก่อนที่ โคมัน จะมายิงในนาที 71)

แต่ที่ทำให้ ยูไนเต็ด เล่นยังไงก็ไม่ชนะคือ “เกมรุก” class ไม่ถึงจะไปทำอะไร “พี่เสือ” เขาได้ล่ะครับ กระดูกบอลคนละเบอร์กับแนวรับทีมเยือนแบบเห็นได้ชัด

ราสมุส ฮอยลุนด์ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ เจอ อูปาเมกาโน่ แท็คทีม มาซราอุย และ คิม มิน-แจ กับ อัลฟอนโซ่ เดวิส คอยสลับกันมา “เก็บงาน”

เล่นไปเล่นมาเหมือนบอลเด็กกับผู้ใหญ่

ทั้ง 2 คนเลี้ยงไม่ผ่านทำอะไรไม่ได้โดนความหนาความแกร่งของ อูปาฯ กับ คิม เบียดกระเด็นกระดอน

มี แอนโทนี่ ที่พอป่วนในช่วงต้นเกมได้อยู่บ้างนิดหน่อยนอกนั้นถูกกลืนหายไปพร้อมๆกับคนอื่น

เกมรับพยายามซื้อเวลาเพื่อให้เกมรุกยิงแต่พอไม่ได้แถมหมดแรงจากการวิ่งเพรสใส่ทั้งในครึ่งแรกและต้นครึ่งหลัง หมดสิครับ!!

ในเกมชี้เป็นชี้ตาย เอริค เทน ฮาก แก้เกมอะไรมากไม่ได้ซะด้วยเนื่องจากตัวซีเนียร์อย่าง มาร์กซิยาล และ แรชฟอร์ด ดันเป็นไข้ ม้านั่งสำรองเหลือดาวรุ่งอย่าง เปลลิสตรี, ไมนู และ ฮันนิบาล

เราสู้แล้วแต่ชีวิตสู้กลับว่ะ

ความเสียหายครั้งใหญ่ของ ยูไนเต็ด ที่นอกจากจะตกรอบด้วยอันดับสุดท้ายแล้วยังเสีย 2 แนวรับตัวจริงอย่าง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (ขาหนีบ) และ ลุค ชอว์ (แฮมสตริง)

ตอน แม็คไกวร์ เลี้ยงๆอยู่แล้วกระตุกจับขาหนีบก่อนเตะบอลทิ้ง ผู้เล่น “ผี” 2-3 คนเอามือกุมหัว คือช่วงหลัง “พรี่แฮร์รี่” ฟอร์มดีเป็นตัวสำคัญในแนวรับจริงๆ เข้าใจปฏิกริยาเลย

ไปเยือน แอนฟิลด์ ในศึก “แดงเดือด” ด้วยสภาพฟอร์มและจิตใจที่เป็นรองหนักอยู่แล้วมาซวยซ้ำซวยซ้อนเสียคนสำคัญไปพร้อมๆกับ บรูโน่ ที่ติดโทษแบนพอดีอีก

มองในแง่ดีจบบ๊วยชวดไปแม้กระทั่ง ยูโรป้า ลีก การโฟกัสบอลภายในประเทศอย่างเดียวเป็นข้อได้เปรียเหมือนที่ สเปอร์ส เคยฟอร์มแรงอยู่ช่วงนึง (แถมแฟนบอลไม่ต้องนอนดึก)

แต่ประเด็นใหญ่ที่พูดกันมาเยอะแล้วคือการแพ้ 12 จาก 24 เกมทุกรายการในซีซั่นนี้ ETH ยังคือคนที่ “ชั่ย” อยู่ไหมและบอร์ดบริหารจะอดทนอีกนานแค่ไหนถึงจะถึงจุดคำว่า “พอกันที” ….

สถิติ สถิติ สถิติ

แมนฯยูฯ แพ้ 12 จาก 24 เกมในทุกรายการฤดูกาลนี้ซึ่งมากเท่ากับที่ลงเล่นถึง 62 เกมตลอดฤดูกาล 2022-23 เลยทีเดียว

“ปีศาจแดง” ตกรอบแบ่งกลุ่ม UCL เป็นหนที่ 3 จาก 7 ฤดูกาลนับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รีไทร์ซึ่งใน 3 ครั้งที่ว่าเป็นตัวเลขเท่ากับที่ “ป๋า” คุมมาอย่างยาวนาน 18 ปี

ยูไนเต็ด จบอันดับ “บ๊วย” ใน UCL รอบแบ่งกลุ่มเป็นหนที่ 2 โดยครั้งแรกเกิดขึ้นฤดูกาล 2005-06

แมนฯยูฯ เสีย 15 ประตูใน UCL ซีซั่นนี้ เป็นตัวเลขสูงสุดในบรรดาตัวแทนจากพรีเมียร์ลีกในรอบแบ่งกลุ่มไปเรียบร้อยแล้ว

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด