สาลิกาพาทัวร์ บุญรักษาโดนแค่ 2
หลังเห็น นิวคาสเซิ่ล เปิดเกมรุกไล่ขโยก แมนฯยูฯ เกือบทั้งเกมทำให้รู้สึกว่าโชคดีเอามากๆที่ “หงส์แดง” ฉก 3 แต้มจากการได้เปรียบตัวผู้เล่นตั้งแต่นาที 22 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ภาพที่เห็น ณ ถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในค่ำคืนวันอาทิตย์ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งวันที่ ทูนอาร์มี่ เชียร์บอลได้มันสะใจสุดๆ
เสียงเป็นเอกฉันท์ทั้งมุมแดงและน้ำเงินกับชัยชนะสะเด่าไปเลยอีน้องของเหล่าพลพรรค “สาลิกา” ที่มีโอกาสยิงในเกมนี้มากถึง 22 หนซึ่งคนละเรื่องกับฝั่ง “ปีศาจแดง” ที่โดนกดอย่างหนักและได้ส่องแค่ 6 ครั้ง
เจ้าถิ่นนอกจากมีเดิมพันคือ top 4 เป็นเป้าหมายแรกในวันนี้แล้วยังมีความแค้นจากการแพ้ในรอบชิง คาราบาว คัพ เป็นเชื้อเพลิงเร่งอีกแรงด้วย
ไม่แปลกใจเลยว่าบรรยากาศในสนามระอุเป็นไฟ เสียงโห่จากแฟนบอลในทุกๆครั้งที่ทีมเยือนดึงช้า ก็ไม่รู้ว่า ทูนอาร์มี่ มีเขินบ้างไหมเนื่องจากแข้ง นิวคาสเซิ่ล เคยเป็นต้นตำรับ 2 คน 2 คม “ขยันนอน” มาก่อนหน้านี้
ชัยชนะสวยๆเก๋ๆของ “สาลิกา” ไม่ใช่แค่ 3 แต้มธรรมดาแต่มันเป็นการตบทรัพย์แบบไปกลับจนแซง ยูไนเต็ด ขึ้นไปอยู่ที่ 3 เรียบร้อย
ครับ เอริค เทน ฮาก และเหล่าลูกน้องรับทราบดีว่าพวกเขามาเยือนหนนี้รูปเกมจะออกมาประมาณไหน
ความพยายามสวนกลับของ “ปีศาจแดง” เหมือนจะดูดีแต่ปัญหาหลักๆเลยคือตัวรุกที่มีความเร็วมีน้อยเกินไปคือแค่ แรชฟอร์ด กับ แอนโทนี่ และต้องสะกิดให้ทราบกันด้วยว่าฝ่ายหลังไม่ใช่สายสปีดที่มุ่งหน้าเป็นเส้นตรง
ในขณะที่สไตล์การพักบอลของ เวกฮอร์สต์ ก็ช้าเกินกว่าจะ “ตอบโต้” ในจังหวะเคาเตอร์
ซ้ำร้าย “พี่หนวด” บรูโน่ ลงไปปั้นเกมต่ำมาก แทงบอลแต่ละที่อยู่ลึก การสร้างสรรค์เกมจึงห่างไกลจากจุดอันตราย ผิดวิสัยทัศน์ของแกไปเลย
นอกจากนี้ “คีย์” หลักที่ทำให้ ยูไนเต็ด โงหัวไม่ขึ้นคือแดนกลางอ่อนแอเกินไปที่จะรับมือกับความห้าวของฝั่ง “สาลิกา”
การขาด คาเซมิโร่ และต้องทนดูรถขายผักสดอย่าง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ คือความบรรลัยของเหล่าพลพรร “ผีแดง” อย่างแท้จริง
รับไม่ได้ ออกบอลมั่ว ยืนตำแหน่งเหมือนแวะดูร้านทุกอย่าง 20 บาท ฟอร์มสวนทางกับทีมชาติ สก็อตแลนด์ เหมือนคนละคนกันเลย
จริงๆแล้วหลังจบครึ่งแรกผมแอบคิดอยู่แว่บนึงว่าช่วงพีคสุดๆของ นิว ที่บุกใส่ยับๆแต่ประตูไม่มาซักที
แถมกลิ่นแปลกๆจากการนอนเซฟของ เด เกอา 2 หนติดและลูกยิงเหน่งๆที่ยังไงก็ต้องมีสกอร์ของ โจ วิลล็อค ที่ข้ามคาน
ตลอดมาจุดอ่อนของทีม เอ็ดดี้ ฮาว คือหวือหวาแต่ปิดการขายไม่เก่ง รำสวย งอมืออ่อนแทบแตะฝ่ามือแต่ความเด็ดขาดเป็นศูนย์
คือถ้าใครไปย้อนดูตัวเลขหลังๆ นิวคาสเซิ่ล มีโอกาสเฉลี่ยเกมๆนึงราวๆ 14-15 ด้วยความที่ใช้โอกาสเปลืองทำให้แทบไม่ชนะใครขาดเลย
ส่วนใหญ่เบียด 1 ลูก 1-0, 2-1 ดังนั้นการเอาชนะ ยูไนเต็ด 2-0 เป็นการ +2 หนแรก (ในพรีเมียร์) นับตั้งแต่บุกถล่ม เลสเตอร์ 3-0 เมื่อปลายเดือนธันวาคมนู่นเลย
ทั้งหมดทั้งมวลชวนให้คิดว่าหาก ETH เปลี่ยนตัวเร็วในครึ่งหลังมีโอกาสที่โมเมนตั้มสวิงกลับมาได้เลย
แต่บอสเปลี่ยนตัวช้ามาก คือทรงครึ่งแรกพักครึ่งก็ต้องมีอย่างน้อย 1 ตัวแต่ดวงแตกที่ยันไม่อยู่ ระหว่างรอเปลี่ยนโดนยิงซึ่งหน้า
แล้วที่ทำให้แฟนบอลงงคือแกเปลี่ยนเอาเซนเตอร์ออกทั้งคู่ไม่ว่าจะ มาร์ติเนซ และ วาราน ซึ่งเพียงให้หลังแค่ 5 นาทีโดนลูกที่ 2 จากการโหม่งของ คัลลั่ม วิลสัน ที่เป็นประตูแรกในรอบ 15 นัดของอดีตแข้ง บอร์นมัธ อีกต่างหาก
จบนัดนี้แล้วการช่วงชิงพื้นที่ top 4 เดือดปุดๆเพราะ ยูไนเต็ด นอกจากหล่นมาที่ 4 แล้วยังมี สเปอร์ส ที่ผมเชื่อว่า เอฟเวอร์ตัน จะต้านไม่อยู่และจะเป็นว่าที่อันดับ 3 หลังจบเกมในวันจันทร์นี้
ครับ ยูไนเต็ด มีเวลา move on จากเกมนี้เพียงแค่ 3 วันก่อนเจอทีมบอล direct น่ารำคาญอย่าง เบรนท์ฟอร์ด ในสุดสัปดาห์นี้
และต้องไม่ลืมว่านี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของ 9 นัดใน 1 เดือน โทษฐานเก็บงานละเอียดมีเอี่ยวทุกรายการย่อมแบกรับความเสี่ยงในช่วงปลายซีซั่นอย่างช่วยไม่ได้ครับ…
สถิติ สถิติ สถิติ
แมนฯยูฯ ยิงประตูในลีกไม่ได้ติดต่อกันเป็นนัดที่ 3 เป็นคำรบที่ 7 และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020
ยูไนเต็ด ในวันที่ไม่มี คาเซมิโร่ พบกับความพ่ายแพ้ในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 4 ใน 8 หลังสุดโดยเปรียบเทียบกับเสียท่าเพียงแค่ 3 จาก 19 เกมเมื่อมี “เกษม” อยู่ในทีม
“ปีศาจแดง” ยิงไม่เข้ากรอบเลยตลอดทั้งครึ่งแรกซึ่งนับเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้เลย
นิวคาสเซิ่ล เอาชนะ แมนฯยูฯ โดยที่ทั้งคู่อยู่ในตำแหน่ง top 5 เป็นเพียงหนที่ 2 เท่านั้นโดยหนแรกนั้นเป็นชัยชนะ 5-0 ในตำนานที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อปี 1996 ภายใต้การคุมทีมของ เควิน คีแกน
ลูกที่ อแล็ง แซงต์ แม็กซิแมง แอสซิสต์ ให้ โจ วิลล็อค เป็นการสร้างโอกาสหนที่ 6 ในเกมนี้ นับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดของแข้งน้ำหอมต่อ 1 เกมเรียบร้อยแล้ว (นับเฉพาะในลีก)
“สาลิกา” สปรินท์ในเกมนี้ถึง 136 ครั้งเทียบกับ ยูไนเต็ด ที่แค่ 93 เท่านั้น
ที่มา: soccersuck