สิงโตได้สโตนส์คุมหลัง, โปลขาดเลวาน, เดนส์สตาร์ตฮอยลุนด์…ปรีวิวยูโร 2024
ปรีวิวยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม
วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2567
กลุ่มดี
โปแลนด์ – เนเธอร์แลนด์ (20.00 น.)
ถ่ายทอดสด :
TPF HD 3(603)/PPTV 36
โปแลนด์ จะไม่มี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกคนสำคัญ เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บแฮมสตริงรบกวน
ตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่หัวหอกวัย 35 ปี จะพลาดทุกเกมในรอบแรก แม้กุนซือ มิชาล โปรเบียร์ซ ยังเชื่อว่าจะคัมแบ็กกลับมาได้ทันเกมเจอออสเตรียก็ตาม
เนเธอร์แลนด์ เสียหายหนักเมื่อ 2 มิดฟิลด์สำคัญของทีมอย่าง เฟรงกี้ เดอ ยอง (ข้อเท้า) และเทิน คอปไมเนอร์ส (ขาหนีบ) หายเจ็บไม่ทันจนต้องถอนตัวจากทัวร์นาเมนต์นี้ไปเรียบร้อยแล้ว
สถิติ..สถิติ..สถิติ
– โปแลนด์ ไม่ชนะเนเธอร์แลนด์ 12 นัดหลังสุดที่เจอกัน (เสมอ 5 แพ้ 7) เกมสุดท้ายที่พวกเขาชนะต้องย้อนกลับไปตอนยูโร 1980 รอบคัดเลือก
– นี่จะเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทีมเจอกันในรอบสุดท้ายทัวร์นาเมนต์ใหญ่
– โปแลนด์ ชนะแค่ 2 จาก 14 นัด (เสมอ 7 แพ้ 5) ที่เคยเล่นในรายการนี้ (ไม่นับจุดโทษ)
– เนเธอร์แลนด์ เล่นรายการนี้เป็นครั้งที่ 11 พวกเขาเคยเป็นแชมป์ 1 สมัย ปี 1988 หลังชนะรัสเซียได้ในนัดชิงฯ 2-0
——————————————
กลุ่มซี
สโลเวเนีย – เดนมาร์ก (23.00 น.)
ถ่ายทอดสด :
TPF HD 3(603)/PPTV 36
คริสเตียน อีริคเซ่น ตัวเก๋าทีมชาติเดนมาร์ก แสดงความมั่นใจว่าสุขภาพของเขาสมบูรณ์ดี หลังเกิดเหตุการณ์ช็อกโลก เจ้าตัวล้มลงหมสติคาสนามเนื่องจากหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน ในเกมพบฟินแลนด์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
นัดนี้คาดว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ จะได้เล่นเป็นตัวจริง และกุนซือ แคสเปอร์ ฮุลมอนด์ พร้อมเลือกใช้งานผู้เล่นทุกคน แม้จะยอมรับว่า ยังมีบางคนไม่ฟิตสมบูรณ์พอจะเล่นเต็ม 90 นาทีก็ตาม
ส่วน สโลวีเนีย สภาพทีมสมบูรณ์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
สถิติ..สถิติ..สถิติ
– สโลวีเนีย ไม่เคยชนะเดนมาร์กจาก 6 เกมหลังสุดที่เจอกันในทุกรายการ โดยแพ้ถึง 5 นัด
– เดนมาร์ก เล่นยูโรมาแล้ว 10 ครั้ง และเคยไปถึงตำแหน่งแชมป์ในปี 1992
– นับตั้งแต่ได้แชมป์ เดนมาร์กผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น คือไปไกลถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในปี 2004 และรอบรองชนะเลิศปี 2020
– เบนจามิน เซสโก้ ยิงไป 5 ประตู 2 แอสซิสต์ จาก 9 นัดในรอบคัดเลือก ถือเป็นการยิงและทำแอสซิสต์ได้มากกว่านักเตะคนอื่นๆของสโลวีเนีย
– ราสมุส ฮอยลุนด์ ยิงไป 7 ประตูในรอบคัดเลือก มีโอกาสทำประตู 23 ครั้ง ยิงเข้ากรอบ 13 นัด มีค่า xG อยู่ที่ 5.2 สูงที่สุดในทีมเดนมาร์ก
——————————————
กลุ่มซี
เซอร์เบีย – อังกฤษ (02.00 น.)
ถ่ายทอดสด :
TPF HD 3(603)/PPTV 36
“สิงโตคำราม” อังกฤษ ต้องลุ้น ลุค ชอว์ ว่าผ่านความฟิตพอนั่งเป็นตัวสำรองในเกมนี้ได้หรือไม่ คาดว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต จะจับคู่ จอห์น สโตนส์ และมาร์ก เกฮี ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก ให้ คีแรน ทริปเปียร์ โยกไปเล่นแบ็กซ้าย โดยมี ไคล์ วอล์คเกอร์ อยู่ฝั่งขวา
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คาดว่าจะยืนเป็นมิดฟิลด์คู่กับ เดแคลน ไรซ์ ขณะที่ บูคาโย่ ซาก้า ก็น่าจะฟิตสมบูรณ์พร้อมช่วยเกมรุก
เซอร์เบีย ของกุนซือ ดราแกน สตอยโควิช มีสภาพทีมที่สมบูรณ์ พวกเขาต้องฝากความหวังไว้ที่ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช และ ดูซาน วลาโฮวิช
สถิติ..สถิติ..สถิติ
– ทั้งคู่เจอกันมาแล้ว 15 นัด โดย 14 นัดเจอกันสมัยที่ยังเป็นยูโกสลาเวีย และอีกนัดเป็นเกมกระชับมิตร สมัยอังกฤษชนะเซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร 2-1 เมื่อปี 2003
– แฮร์รี่ เคน จะเล่นเกมระดับทัวร์นาเมนต์เป็นนัดที่ 23 และ 12 นัดในยูโร
– จอร์แดน พิคฟอร์ด ต้องการอีกแค่นัดเดียวก็จะทำสถิติคลีนชีต 10 นัดในรอบสุดท้ายเทียบเท่า ปีเตอร์ ชิลตัน
– ทีมของเผซาธ์เกต ชนะแค่นัดเดียวจาก 5 เกมหลังสุด (เสมอ 2 แพ้ 2)
– อังกฤษ ลงเล่นในยูโรมาแล้ว 38 นัด มากที่สุดกว่าทุกทีม แต่ไม่เคยได้แชมป์
– เซอร์เบีย ตกรอบแบ่งกลุ่ม 4 ครั้งในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ทั้งหมดเกิดขึ้นในฟุตบอลโลก
– หนึ่งใน 3 จาก 15 ประตูของเซอร์เบียในรอบคัดเลือกได้มาจากการโหม่ง ซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุดของทุกทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย
ที่มา: soccersuck