สิ่งที่ได้เห็นในวันที่บอลไทยชนะ???
ในเอเชียนคัพครั้งนี้ ทุกคนทราบดีว่า ถ้านัดแรก ทีมชาติไทย เก็บแต้มจาก คีร์กีซสถาน ไม่ได้ โอกาสลุ้นเข้ารอบแทบจะเหลือ 0
เพราะ 2 นัดที่เหลือ ต้องเจอกับ โอมาน และ ซาอุดิอาระเบีย สองทีมตัวเต็งของกลุ่ม
แต่สิ่งที่ได้เห็นจากการรวมตัวก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนท์แค่ 9 วัน ต้องบอกเลยว่า “ช้างศึก” ทำได้ดีเกินคาด
โดยเฉพาะ “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือชาวซามูไรที่แฟนบอลไทยฝากความหวัง ได้เผยเคล็บลับสู่ชัยชนะคือการเลือกนักเตะที่รู้ใจมาเป็นทางลัดสร้างทีมเวิร์คในเวลาอันรวดเร็ว
จาก 11 ตัวจริง มีถึง 7 คนที่เคยร่วมงานกับ อิชิอิ ในไทยลีกทั้ง สมุทรปราการ ซิตี้ และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ไล่ตั้งแต่ ผู้รักษาประตู – ปฏิวัติ คำไหม, กองหลัง – ธีราทร บุญมาทัน, พรรษา เหมวิบูลย์, กองกลาง – พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ 3 กองหน้า สุภโชต สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ศุภชัย ใจเด็ด
นี่คือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างชาญฉลาด บวกกับวิธีการเข้าทำที่หลากหลาย มีชิ่งสั้น วางบอลยาว และที่สำคัญคือ ช่วยกันเล่นช่วยกันไล่ มีความทุ่มเทตลอดทั้งเกมตามที่ อิชิอิ คาดหวัง
มันจึงเป็น 90 นาทีที่มีข้อดีเยอะไปหมด
ไทยเราเล่นได้เหนือกว่าแบบเห็นด้วยตาเปล่า และน่าจะยิงได้มากกว่า 2 ลูกด้วยซ้ำ
ยิ่งเป็นชัยชนะในรายการระดับทวีปด้วยแล้ว ยิ่งดู ก็ยิ่งมีความสุข
เพราะนี่คือชัยชนะเกมที่ 3 ของไทย ตั้งแต่เล่นเอเชียนคัพมา โดยนัดแรกต้องย้อนไปไกลถึงปี 2007 ชนะ โอมาน 2-0 และปี 2019 ชนะ บาห์เรน 1-0
แม้หลายคนจะบอกว่า คีร์กีซสถาน มีดีกว่า ไทย แค่อันดับโลก (98 : 113) ไม่ได้น่ากลัวแบบที่แอบหวั่น
อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณ อิชิอิ และ นักเตะ ที่ทำให้คนไทยมีความสุข และมีความหวัง
แต่จากนี้ไปจะเป็นงานยากขึ้นเรื่อย ๆ ในการเผชิญหน้ากับ โอมาน และ ซาอุดิอาระเบีย
เส้นทางยังไม่จบ ขวากหนามยังต้องเจอ
ณ วันนี้ ในวันที่บอลชนะ อะไร ๆ ก็ดูดีไปหมด
แต่ ณ วันไหนที่แพ้ ขอให้แฟนบอลได้โปรดช่วยซัพพอร์ตพวกเขากันด้วยนะครับ
ที่มา: soccersuck