อังกฤษอาจต้องกลับไปใช้แผน 5-2-3 เพื่อดับแสง เอ็มบัปเป-แอร์กน็องเดซ

#SSxKMD | จากแนวโน้มที่น่าจะพ้นตำแหน่งหลังจบฟุตบอลโลกที่กาตาร์ กลายเป็นแฟนบอลเริ่มนิยมชมชื่นแกเรธ เซาธ์เกต เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนมีกระแสอยากให้เขาคุมทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกลูกหนังยูโร 2024 ที่เยอรมนี

ก่อนเวิลด์คัพ สื่อมวลชนและเหล่ากูรูค่อนข้างมั่นใจว่าเซาธ์เกตคงยึดมั่นระบบ 5-2-3 แม้เพิ่งพา “ทรี ไลออนส์” หล่นไปเล่นเนชันส์ลีก บี หลังจากรั้งอันดับบ๊วยของกรุ๊ป เอ3 ด้วยสถิติเสมอ 3 นัด แพ้ 3 นัด โดยเซาธ์เกตวางหมากให้มี CM 2 คนคือ ดีแคลน ไรซ์ กับ จูด เบลลิ่งแฮม ที่ต้องยืนคู่กันในแดนกลาง ทำให้ดาวรุ่งวัย 19 โดนจำกัดบทบาท ต้องช่วยกันปั้นเกมร่วมกับไรซ์

แต่เซาธ์เกตทำเซอร์ไพรส์ เปิดสนามเวิลด์คัพกับอิหร่านด้วยระบบ 4-3-3 ซึ่งนักข่าวและแฟนบอลช่วยกันเรียกร้องมาระยะเวลาหนึ่ง โดยตำแหน่งมิดฟิลด์ เบลลิ่งแฮมอยู่ขวามือคู่กับเมสัน เมาท์ ขณะที่ไรซ์ถอยลงต่ำอยู่หน้าแบ็คโฟร์ ฟอร์แมทนี้ช่วยให้อังกฤษคอนโทรลเกมได้มากขึ้นแม้ต้องเสียเอ็กซ์ตรา เซ็นเตอร์แบ็ค ไปหนึ่งคน

เวอร์ชัน 4-3-3 ช่วยให้อังกฤษครองบอลเหนือคู่แข่งทุกเกมทั้งนัดชนะอิหร่าน 6-2, เสมอสหรัฐ 0-0, ชนะเวลส์ 3-0 และชนะเซเนกัล 3-0 ขณะที่ตำแหน่งตัวขวาของ three-man midfield ทำให้เบลลิ่งแฮมตะลุยขึ้นหน้ามากขึ้น คล้ายกับที่เล่นให้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งสตาฟฟ์โค้ชต้องการให้เบลลิ่งแฮมมีส่วนร่วมกับการทำประตูมากขึ้น และที่กาตาร์ แฟนบอลได้เห็นเบลลิ่งแฮมเข้าไปอยู่ในกรอบเขตโทษบ่อยครั้ง รวมถึงสกอร์ที่ทำได้ในแมตช์กับอิหร่าน ซึ่งเบลลิ่งแฮมทำสกอร์จากการโหม่งบอลที่ผ่านมาจากลุ๊ค ชอว์

แต่ก่อนลงเตะรอบควอเตอร์ไฟนัลกับแชมป์เก่า เริ่มมีความสงสัยขึ้นมาว่าเซาธ์เกตยังจะใช้ระบบ 4-3-3 ต่อไป หรือหันไปใช้แผนเพลย์เซฟ อัดเซ็นเตอร์แบ็คสามคน ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์ และแฮร์รี แม็คไกวร์ เพื่อรับมือปีกซ้ายซูเปอร์สตาร์ คีลิยัน เอ็มบัปเป ว่าที่ GOAT คนใหม่ ซึ่งทำ 5 ประตู 2 แอสซิสต์จาก 4 นัดที่กาตาร์ ขณะที่เคียแรน ทริปเปียร์ จะลงตัวจริงในฐานะวิงแบ็คด้านขวาเพื่อช่วยวอล์คเกอร์หยุดเอ็มบัปเป

ว่ากันตามจริง ฝรั่งเศสเป็นคู่แข่งของอังกฤษที่เหนือกว่าสี่ทีมที่ผ่านมามาก ไม่เพียงมีแนวรุกระดับพระกาฬอย่างเอ็มบัปเป, อุสมาน เดมเบเล, อองตวน กรีซมันน์ และศูนย์หน้าตัวเป้า โอลิวิเยร์ ชิรูด์ แต่ยังมีสองมิดฟิลด์ ออเรเลียง ชูอาเมนี และ อาเดรียง ราบิโอต์ ซึ่งเชื่อมต่อเกมรุกกับกรีซมันน์ได้อย่างลื่นไหล อังกฤษคงไม่เป็นฝ่ายคอนโทรลเกมได้เหนือกว่าอย่างสี่นัดก่อนหน้านี้

แต่บทความ Total Football Analysis จาก คริส ดาร์วิน ในสื่อ The Sun ยังให้เหตุผลเพิ่มเติมที่เซาธ์เกตอาจจำเป็นต้องกลับมาใช้แผน 5-2-3 เนื่องจากตัวอันตรายด้านซ้ายของฝรั่งเศสไม่ได้มีแค่เอ็มบัปเปแต่ยังมี เตโอ แอร์กน็องเดซ แบ็คซ้ายวัย 25 จากเอซี มิลาน

ฝรั่งเศสเริ่มต้นบอลโลกครั้งนี้โดยมี ลูกัส แอร์กน็องเดซ พี่ชายของเตโอ ซึ่งเล่นให้กับบาเยิร์น มิวนิก เป็นแบ็คซ้ายตัวจริง แต่โชคร้ายเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขวาฉีกตั้งแต่นาทีที่ 13 ของแมตช์แรกกับออสเตรเลีย และน้องชายที่อายุอ่อนกว่าหนึ่งปีจึงรับหน้าที่แทนนับตั้งแต่ตอนนั้น

การประสานระหว่างเอ็มบัปเปกับแอร์กน็องเดซทำให้ฝรั่งเศสมีเกมรุกฝั่งซ้ายที่น่ากลัว โดยแบ็คซ้ายวัย 25 ทำได้ 2 แอสซิสต์จาก 3 นัด ซึ่งมีโอกาสมากที่เซาธ์เกตต้องอาศัยเซ็นเตอร์แบ็คร่วมมือกับฟูลแบ็คเพื่อปกป้องแนวรับ

เอ็มบัปเปเหมือนได้แอร์กน็องเดซเป็นพาร์ทเนอร์ในดวงใจแล้ว ทั้งคู่ร่วมกันทำลาย deep defensive block ของออสเตรเลียและโปแลนด์ที่จัดวางระบบการยืนอย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งเห็นได้ชัดว่า ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ วางเอ็มบัปเปและแอร์กน็องเดซเป็นคีย์สำคัญของเกมรุก ทั้งสองสลับตำแหน่งกันบ่อยครั้งจนสร้างความสับสนให้กับ defensive block ของฝ่ายตรงข้าม

บ่อยครั้งที่เอ็มบัปเปตัดเข้าในของพื้นที่ halfspace ระหว่างฟูลแบ็คหรือวิงแบ็คกับเซ็นเตอร์แบ็คตัวใกล้สุด ขณะที่แอร์กน็องเดซดันตัวเองขึ้นสูงมาบริเวณด้านข้างสนาม ตัวอย่างคือประตูแรกนาทีที่ 44 ของรอบสอง เอ็มบัปเปได้บอลห่างกรอบเขตโทษไม่ไกล ทำให้เซ็นเตอร์แบ็คโปแลนด์หลุดตำแหน่ง ขณะที่แบ็คขวาต้องคอยระวังแอร์กน็องเดซ เปิดช่องให้เอ็มบัปเปจ่ายบอลให้ชิรูด์ ซึ่งวิ่งตัดหลังตัวประกบเข้าไปรับบอลและสับไกจังหวะสุดท้ายเข้าไป ซึ่งเป็นประตูที่ 52 ของชิรูด์ ครองอันดับ 1 ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติฝรั่งเศส เหนือเธียร์รี อองรี 1 ประตู

บางจังหวะ แอร์กน็องเดซจะเคลื่อนตัวเข้าด้านใน ปล่อยให้เอ็มบัปเปอยู่ริมสนามฝั่งซ้าย ทั้งคู่ยังโอเวอร์แลปกันบ่อยครั้งจนกองหลังคู่แข่งปั่นป่วน ซึ่ง Total Football Analysis สรุปทิ้งท้ายว่า บางทีการกลับไปใช้ back five เพื่อจับคู่วอล์คเกอร์กับทริปเปียร์ อาจเป็นทางแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผล

เรียบเรียง: KMD Content Team

ภาพ: BBC England

ที่มา: soccersuck

ความคิดเห็น

ความคิดเห็น

จำนวนคนดู:
X ปิด