ได้ชื่อครบ! ส.บอล เร่งดำเนินคดีกลุ่มจุดพลุแฟลร์ศึก AFF จนถึงที่สุด
สมาคมฟุตบอลฯ เร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดี แฟนบอลวางเพลิงเผาทรัพย์ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ด้วยการจุดพลุแฟลร์ ในศึก AFF 2022 ที่ธรรมศาสตร์ สเตเดียม หลังได้ชื่อครบ 24 รายแล้ว
ตามที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แจ้งความร้องทุกข์กรณี กลุ่มแฟนบอลบางส่วนทำผิดระเบียบการแข่งขันและผิดกฎหมายกรณีวางเพลิงเผาทรัพย์ ทำให้เกิดเพลิงไหม้ ด้วยการจุดพลุแฟลร์ ในการแข่งขันฟุตบอลรายการ AFF MITSUBISHI ELECTRIC CUP 2022 ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ในวันที่ 26 ธันวาคม 2565 และ ระหว่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติมาเลเชีย วันที่ 10 มกราคม 2566 ณ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม ตามประจำวันลำดับ ที่ 19 ลงวันที่ 13 มกราคม 2566 เวลา 12.44 น. นั้น
ล่าสุด สมาคมฯ ได้ติดตามความคืบหน้าคดีข้างต้นจากสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้ความว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ร่วมกันกระทำความผิด จำนวน 24 ราย อย่างเร่งด่วนต่อไป ประกอบด้วย (1 ) แกนนำกลุ่ม นาย ป. นามสกุล ป. อายุ 44 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
สมาชิกกลุ่ม ที่เคลื่อนไหวอีก 23 ราย ประกอบด้วย (1) นาย ธ. นามสกุล ว. อายุ 25 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม., (2) นาย ส. นามสกุล อ. อายุ 48 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนนทบุรี, (3) นาย ฉ. นามสกุล จ. อายุ 40 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดพิจิตร, (4)นาย ว. นามสกุล จ. อายุ 36 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดปทุมธานี , (5) นาย อ. นามสกุล พ. อายุ 39 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดระนอง (6) นาย ก. นามสกุล ก. อายุ 44 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม., (7) นาย ธ. นามสกุล ส. อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครนายก, (8) นาย น. นามสกุล ช. อายุ 37 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม., (9) นาย อ. นามสกุล ส. อายุ 48 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม.,(10) นาย ส. นามสกุล อ. อายุ 38 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดชลบุรี
(11) นาย ม. นามสกุล ศ. อายุ 42 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, (12) นาย ศ.นามสกุล ถ. อายุ 42 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม., (13) นาย ย.นามสกุล จ. อายุ 46 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนนทบุรี, (14) นาย น. นามสกุล อ. อายุ 40 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม., (15) นาย อ. นามสกุล ฤ. อายุ 42 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม.,(16) นาย ณ. นามสกุล ช อายุ 43 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดสระบุรี
(17) นาย ก.นามสกุล ส. อายุ 44 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม., (18) นาย ณ.นามสกุล ว. อายุ 40 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดร้อยเอ็ด, (19) นาย ก.นามสกุล จ. อายุ 41 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดสมุทรปราการ, (20) นาย ก. นามสกุล ข. อายุ 26 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดตราด, (21) นาย ช. นามสกุล ฟ. อายุ 30 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม., (22) นาย ธ. นามสกุล ป. อายุ 53 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ กทม. , (23) นาย ช. นามสกุล บ. อายุ 32 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนนทบุรี
ทั้ง 24 ราย ปรากฏตามภาพถ่าย ซึ่ง สมาคมฯ จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด นอกจากจะเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นความผิดตามระเบียบข้อบังคับของ เอเอฟซี และฟีฟ่า อีกด้วย และอาจถูกปรับทำให้เกิดความเสียหายต่อสมาคมฯ สมาคมจะใช้สิทธิ์ตามกฏหมายฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้เกี่ยวข้องเต็มจำนวน
ทั้งนี้ ในการแข่งขันฟุตบอลรายการระดับนานาชาติ ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ได้เกิดเหตุการณ์แฟนบอลจุดพลุ ในสถานที่จัดการแข่งขันหลายครั้งจนเป็นเหตุให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถูกลงโทษปรับเงิน คือ
วันที่ 6 กันยายน 2557 การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2014 รุ่นอายุไม่เกิน 16 ฤดูกาล รอบคัดเลือก คู่ระหว่างทีมชาติไทย 0 : 1 ทีมชาติมาเลเซีย ณ สนามเมืองทอง ถูกปรับเงิน 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 363,000 บาท)
วันที่ 17 ธันวาคม 2559 การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2016 คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย 2 : 0 ทีมชาติอินโดนีเซีย ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถูกปรับเงิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,076,790 บาท)
วันที่ 26 ธันวาคม 2565 การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย 4 : 0 ทีมชาติฟิลิปปินส์ ณ ธรรมศาสตร์ สเตเดียม เมื่อแฟนบอลกลุ่มหนึ่งแสดงความดีใจด้วยการจุดพลุบริเวณอัฒจันทร์หลังประตูฝั่งทิศใต้ ถูกปรับเงิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 687,770 บาท)
และล่าสุด เอเอฟซี มีคำสั่งปรับเงิน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จำนวน 70,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท จากการที่มีแฟนบอลกลุ่มหนึ่งทำผิดระเบียบ โดยการจุดพลุ ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลชายหาด ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 16-26 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา
ที่มา: soccersuck